http://thainews.prd.go.th
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุ นายกรัฐมนตรี สั่งลดงบประมาณ จัดเลี้ยงดูแล ระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรี นอกสถานที่ และสั่ง 3 กระทรวง สำรวจบ้านเรือนประชาชนที่กีดขวางทางน้ำไหล เพื่อให้ความช่วยเหลือหากมีความต้องการ
พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ในวันที่ 25-26 ธันวาคมนี้ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก และประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ ที่จังหวัดสุโขทัย โดยที่จังหวัดสุโขทัย จะมีประชาชน และกลุ่มการเมือง มายื่นหนังสือ เรื่อง เขื่อนแก่งเสือเต้น โดย นายกรัฐมนตรี ยินดีรับฟังทุกฝ่าย เพราะการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งเป็นสิ่งสำคัญทุกคนต้องช่วยกัน และอยากให้สังคมเปิดใจรับฟังข้อมูลทุกภาคส่วนในการแก้ปัญหาอุทกภัย
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงปัญหาน้ำท่วม ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมอบหมายให้ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ไปสำรวจประชาชน ที่มีอาคารบ้านพัก กีดขวางทางน้ำไหล โดยให้ไปสำรวจหากต้องการปรับหรือย้าย ก็ให้พิจารณาช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก ดำเนินการตามกฎหมาย
สำหรับการลงพื้นที่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ของนายกรัฐมนตรี พรุ่งนี้ ซึ่งมีประเด็นที่มีประชาชนจำนวนหนึ่ง ตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใด ไม่ให้นายกรัฐมนตรี ไปดูพื้นที่อุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ ที่ใช้การไม่ได้ โดยเรื่องนี้พบความเสียหายมีจริง แต่แก้ไขไปแล้วและส่งน้ำไปให้เกษตรกรได้แล้ว จึงไม่ใช่การเลี่ยงที่จะไปดูพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการว่า ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ หรือ ประชุมคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่นี้ไปขอให้ลดงบประมาณ จัดเลี้ยงดูแลให้ได้มากที่สุด รวมทั้งการจัดบูธ ต่างๆ ขอให้เปลี่ยนเป็นการพูดคุย เพื่อแก้ปัญหาแต่ละเรื่องกับผู้เกี่ยวข้อง
ส่วนที่สหภาพยุโรปจะพัฒนาความสัมพันธ์กับไทยให้มากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าดีใจเรื่องนี้จนเกินไป จนลืมเจตนารมณ์ความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศ ซึ่งเชื่อว่า สิ่งต่างๆ ที่ส่งสัญญาณจากสหภาพยุโรป เป็นเพราะเข้าใจว่า ปัจจุบันรัฐบาลแก้ไขปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน การรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งวางยุทธศาสตร์ชาติไว้อย่างไร และที่สำคัญเราพยายามตอบรับกฎกติกาที่สังคมโลกที่เห็นว่าเหมาะสม เราก็ไม่เคยละเลย ไม่ว่าจะเป็นการทำประมงผิดกฎหมาย เราก็พยายามหาทางแก้ไข ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับภาคประมง ตลอดจนแรงงานต่างด้าวที่ถูกกดขี่ข่มเหง ทำให้สหภาพยุโรป เชื่อถือว่ารัฐบาลไทย พยายามแก้ไขปัญหาทั้งในประเทศ และตอบรับกฎกติกาสากลจึงมีสัญญาณที่ดี
อย่างไรก็ตามนายกรัฐมนตรี อยากให้ทุกคนเข้าใจว่ารัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ และยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน ในเรื่องที่จำเป็นต้องแก้ไข แม้ว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาแล้วเกือบทุกเรื่อง แต่อาจยังไม่ครอบคลุม ก็สามารถแนะนำได้
matemnews.com 12 ธันวาคม 2560
