Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ถล่มหนังสือพิมพ์กับโซเชียลมีเดียให้คนไทยในปารีสฟัง – มีสาระน้อย   ไร้สาระเยอะกว่า

พลเอกประยุทธ์ถล่มหนังสือพิมพ์กับโซเชียลมีเดียให้คนไทยในปารีสฟัง – มีสาระน้อย   ไร้สาระเยอะกว่า

556
0
SHARE

 

 

เช้าวันที่ 24 มิ.ย.2561  ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมกิจกรรมพบปะคนไทยในฝรั่งเศส โดยได้กล่าวบางตอน ว่า

 

 

“วันนี้  ที่ผมเลือกมายุโรปไม่ใช่ว่าเขาเกลียดผมแล้วต้องมา แต่เพราะเห็นศักยภาพไทยในการที่เป็นศูนย์กลางอาเซียน หากไม่เชิญผมก็คงไม่มา เพราะมาไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องนำศักยภาพมาทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด ถ้าเราไม่ทำอะไรใหม่ๆ หากินแบบเดิมจากเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ที่เรามีการปฏิวัติทางเศรษฐกิจ และ การผลักดันการลงทุนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออกของไทย หรืออีสเทิร์นซีบอร์ด เกิดขึ้นในสมัย พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากมองว่าเรากำลังกินบุญเก่าอยู่ก็ใช่ ขณะเดียวกันต้องสร้างความเข้มแข็งให้แต่ละหมู่บ้านในชุมชน รัฐบาลจึงมีนโยบายไทยนิยม หมู่บ้านละ 2 – 3 แสนบาท ตำบลละ 3 – 5 ล้านบาท เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่การแจกเงินเหมือนที่ผ่านมา ให้ไปแล้วไปปล่อยกู้   แล้วหลายคนชอบ แต่พอมาทำแบบนี้แล้วคนไม่รักผม แต่วันหน้าคนต้องนึกถึงว่าสิ่งที่ผมทำคืออะไร เพราะได้ทำในสิ่งที่เป็นส่วนรวม  เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนพอใจ จะเห็นต่างได้   แม้ใครๆ จะไม่ชอบผมก็ไม่ว่า และขอฝากความคิดถึงไปถึงแม้จะไม่รักผมก็ตาม แต่ในเมื่อเป็นคนไทยเหมือนกัน ผมต้องทำให้ประเทศไทยและครอบครัวทุกคนที่อยู่ในไทย   บางประเทศเป็นประเทศเล็กๆ แต่เก่งในเรื่องของการค้าขาย ใช้สติปัญญา ซึ่งของเราก็มี แต่ใช้ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง บางทีว่างๆ ก็ทะเลาะกัน แหย่ซ้ายทีขวาทีก็ตีกันตาย ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง ลองเปิดดูสื่อในหนังสือพิมพ์   หรือในโซเชียลมีเดีย ที่มีสาระน้อย   ไร้สาระเยอะกว่า  มีการแชร์ต่อทั้งที่ไม่ใช่เรื่องจริง เกิดคนสองข้างเสมอ วันนี้เรื่องเหล่านี้ต้องลดลงไป มันห้ามไม่ได้ โลกเป็นแบบนี้เพราะทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นได้  วันนี้ทุกประเทศในโลกมีการวิเคราะห์มาแล้วว่า  มันจะมีปัญหาการบริหารราชการแผ่นดิน ในการปกครองรัฐจะอำนาจน้อยลง  เพราะประชาชนเข้าถึงโซเชียลมีเดีย  การสื่อสารด้วยตนเอง นี่คือเสียงของประชาชน ที่บางครั้งเราตรวจสอบไม่ได้ว่าจริงหรือไม่ จะไปก้าวล่วงเรื่องสิทธิมนุษยชน จะไปตรวจจับไม่ได้ ยกเว้นคนที่จงใจ ประเภทด่าทุกวันไม่มีข้อเท็จจริง  บิดเบือน  จะต้องโดนลงโทษ ทุกประเทศทำอย่างนี้หมด ไม่ใช่นายกฯ ตู่ จับคนมาลงโทษ มันเขียนทุกวัน ผมจับใครมาลงโทษสักคนไหม ยังไม่เคย   ต้องไปสั่ง เจ้าหน้าที่เขาทำ มีกฎหมายอยู่ หากใครทำเกินเลยก็ต้องจับปรับสอบสวนเท่านั้น กลายเป็นว่าผมไปปิดกั้นคน   ถ้าผมทำหน้าที่ขนาดนั้นก็ไม่ต้องมาเป็นนายกฯ หรอก มีข้าราชการทำงาน 2 – 3 ล้านคน ส่วนหน้าที่ผมคือเล่นงานคนไม่ทำงาน  นายกฯ มีหน้าที่วางแผน ขับเคลื่อนนโยบาย ติดตามการปฏิบัติ ให้คุณให้โทษเจ้าหน้าที่ และคิดแต่อะไรที่เป็นประโยชน์ ไม่ได้คิดจะขี้โกง ได้ตังค์ ได้เงิน ผมไม่มีความต้องการอะไรอีกแล้ว  ชีวิตผมจบไปตั้งนานแล้วในเรื่องรับราชการ เป็นทหาร 60 ปีแล้ว เบื่อจะตายอยู่แล้ว คำว่าเบื่อคือเบื่อที่จะลงโทษคน เบื่อที่จะต้องใช้อำนาจ หลายคนไม่เคยมีอำนาจก็อยากจะมีอำนาจ คนที่มีอำนาจแล้วก็ไม่อยากมีอำนาจ เพราะเขารู้ว่าการมีอำนาจมันยาก เพราะอำนาจมีไว้ใช้ทำความดีให้คุณ แต่อีกด้านหนึ่งอำนาจก็มีไว้ให้โทษคนอื่นในฐานะผู้บังคับบัญชา ซึ่งไม่มีใครอยากให้ร้ายใคร แต่มันจำเป็น โดยเฉพาะทหาร ราชการก็มีระเบียบวินัยของเขา ดังนั้น สิ่งที่เป็นปัญหามากที่สุด  คือ  การบริหารจัดการแผ่นดิน จำเป็นต้องปรับใหม่  ฉะนั้น จะอยู่ในหัวข้อหนึ่งของยุทธศาสตร์ชาติ แล้วถามว่ายุทธศาสตร์ชาติของผมมีปัญหากับการเมืองตรงไหน ไม่มี และข้อสุดท้ายของยุทธศาสตร์ชาติ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ผมจึงต้องมาต่างประเทศ   ไทยมีงบประมาณรายจ่ายปีละ 3 ล้านล้านบาท ยังไม่พอใช้เลย เรามีกฎระเบียบการควบคุมการเงินการคลัง รัฐบาลนี้ยังไม่เคยทำอะไรผิดตรงนี้เลย ยังอยู่ในกรอบวงเงินใช้ทั้งหมด”

 

matemnews.com 

24 มิถุนายน 2561