Home บันเทิง 5 ดาราดังระดับโลก ที่เสียชีวิตเพราะ…ฆ่าตัวตาย !! พบ..ส่วนใหญ่ป่วยเป็น “โรคซึมเศร้า” !!

5 ดาราดังระดับโลก ที่เสียชีวิตเพราะ…ฆ่าตัวตาย !! พบ..ส่วนใหญ่ป่วยเป็น “โรคซึมเศร้า” !!

13863
0
SHARE

เริ่มกันที่ปี 2017 กับข่าวช็อควงการเพลงร๊อกระดับโลก เมื่อ “เชสเตอร์ เบนนิงตัน” นักร้องนำวง Linkin Park ได้ตัดสินใจฆ่าตัวตายในวัย 41 ปี ก่อนปล่อยซิงเกิลสุดท้ายในชีวิต “Talking To Myself” ในสภาพแขวนคอ ที่บ้านพักในนครลอสแองเจลีส

การเสียชีวิตของ “เชสเตอร์” ถูกเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของ “Chris Cornell” ผู้ก่อตั้งและนักร้องนำวง “Soundgarden” เพื่อนสนิทของเชสเตอร์เอง ที่เสียชีวิตด้วยการผูกคอตายเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และเชสเตอร์มักพูดหลังเพื่อนสนิทคนนี้เสียชีวิตว่า เค้าทำถูกแล้ว เค้าคือไอดอลของผม!! และวันที่เชสเตอร์ ตัดสินใจฆ่าตัวตาย ยังเป็นวันเกิดของ “คริส คอเนล” ด้วย

เชสเตอร์ เป็นคนในวงการบันเทิงอเมริกันอีกรายที่จบชีวิตตัวเองจากภาวะซึมเศร้า เขาเคยเปิดเผยชีวิตขมขื่นในวัยเด็กที่นำไปสู่การใช้สารเสพติดของเขา เขาเริ่มสูบกัญชาหลังการหย่าร้างของพ่อแม่เมื่ออายุ 11 ปี ลุกลามถึงขั้นเสพโคเคนและยาบ้า รวมทั้งเขายังยอมรับว่าถูกทำร้ายร่างกายและล่วงละเมิดทางเพศเมื่อครั้งยังเด็ก

มากันที่ “คริส คอเนล” นักร้องนำวง “Soundgarden” แน่นอนว่าเค้าคือเพื่อนสนิทของ “เชสเตอร์” ที่ตัดสินใจผูกคอตายในห้องน้ำ ของโรงแรมแห่งหนึ่ง หลังตรวจพบว่าเค้าได้ใช้ยาเสพติดชนิดหนึ่งก่อนวันที่จะฆ่าตัวตาย

แต่ทั้งนี้ ยังพบว่า “คริส คอเนล” ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า แต่ด้วยการใช้ยาบางตัวในคืนก่อนตัดสินใจจบชีวิต ก็อาจทำให้นักร้องหนุ่มขาดสติได้ โดยได้ตรวจพบยาหลายประเภทในร่างของเขา ประกอบไปด้วย Naloxone (ยาต้านพิษสำหรับคนติดฝิ่น, กัญชา), Butalbital (ยาระงับประสาท), Lorazepam (ยานอนหลับ), Pseudoephedrine (สารอนุพันธ์ของยาบ้า), และ Barbiturate (ยาระงับประสาท) และก็ตรวจสอบพบว่าเขากินยา Lorazepam เข้าไปถึง 4 เม็ดด้วยกัน ซึ่งปกติแล้วคนทั่วไปจะกินแค่วันละ 1 เม็ดเพื่อให้นอนหลับได้เท่านั้น

มากันที่นักร้องชื่อดังต้นยุค 2000 “เคิร์ธ โคเบน” นักร้องนำวง “เนอร์วานา” ที่ได้จบชีวิตลงด้วยการยิงตัวตายที่บ้านในซีแอทเทิร์น รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2537 ขณะที่เค้ามีอายุเพียง 27 ปีเท่านั้น แถมยังเป็นช่วงที่ประสบความสำเร็จทั้งยอดขายอัลบั้มกว่า 50 ล้านอัลบั้มในสหรัฐ ทำให้แฟนคลับทั่วโลกช็อคกับเรื่องนี้มาก

ซึ่งสาเหตุจากการฆ่าตัวตายของเค้า เกิดจากความเครียดสะสม จากเรื่องงานที่ถูกต้นสังกัดกดดันหลายๆอย่าง และถูกเชื่อมโยงถึงเรื่องที่เค้าเบื่อการเป็นดารา เพราะฤทธิ์ของยาเสพติด หรือเพราะมีปัญหากับภรรยา เคอรทนีย์ เลิฟ (Courtney Love) ก่อนฆ่าตัวตาย เค้ายังเขียนโน้ตไว้ว่า “better to burn out than to fade away.”

มากันที่ฝั่งเอเชีย สำหรับ “ฮิเดะ” ศิลปินร็อกจากวง X – JAPAN ที่ได้ตัดสินใจใช้ผ้าเช็ดตัวผูดคอกับลูกบิดประตู กลางปี 1998 ซึ่งคนจำนวนมากยังคงสงสัยถึงเหตุผลของฮิเดะที่ตัดสินใจทำแบบนั้น เพราะเป็นขาขึ้นของวง ไม่น่ามีอะไรต้องมาเครียด

แถมสมาชิกในวงยังบอกอีกว่า ท่าที่ฮิเดะเสียชีวิต เป็นท่าที่ทุกคนในวงทำเมื่อรู้สึกปวดเอว ปวดคอ หรือจะปวดหลัง แต่อาจจะทำไปแล้วเผลอหลับไปทำให้เกิดอาการขาดออกซิเจน

แต่จะอย่างไรก็ตามแต่ เมื่อข่าวฮิเดะฆ่าตัวตายถูกเผยแพร่ทั้งในญี่ปุ่นเอง หรือแม้แต่ในไทย ก็ทำให้แฟนคลับหลายคนตัดสินใจฆ่าตัวตายตาม เหตุเพราะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

จากขาขึ้นของ X – JAPAN ทำให้เป็นขาลงที่หลายคนยังคงประณามฮิเดะที่เป็นต้นแบบให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนคิดสั้น

มาที่เรื่องล่าสุด สำหรับ Oppa “คิม จงฮยอน” นักร้องนำแห่งวง “ชายนี่” ที่ได้ตัดสินใจจบชีวิตด้วยการเผาถ่านหินภายในห้องส่วนตัว และคาดว่านักร้องหนุ่มใช้วิธีนี้ในการรมควันพิษฆ่าตัวตาย

ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุ หนุ่มจงฮยอนได้ส่งเป็นข้อความเหมือนกำลังคิดสั้นไปหาพี่สาว แม้ว่าจะทำให้คนที่รู้สึกไว้ใจมากที่สุดรู้ตัว แต่ก็ไม่ทันได้ช่วยชีวิต “จงฮยอน” เสียชีวิตลงช่วงที่รถพยาบาลกำลังขับไปส่งที่โรงพยาบาล

เหตุผลที่ทำให้นักร้องหนุ่มเกาหลีที่มีแฟนคลับทั่วโลกรายนี้คิดสั้นคือ “โรคซึมเศร้า” โดยเค้าได้เขียนจดหมายที่มีเนื้อความว่า

“ผมนั้นแตกสลายอยู่ภายใน โรคซึมเศร้าของผมค่อยๆ โตขึ้นจนกลืนกินผมเข้าไปทั้งตัว จนทำให้ผมต้องนึกถึงแต่อดีตที่ขมขื่น และตะโกนด่าทอมัน แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา ถ้าผมไม่สามารถหายใจได้อย่างมีความสุข ผมเชื่อว่าอย่าหายใจเลยจะดีกว่า ผมถามตัวเองว่าใครคือคนที่ต้องรับผิดชอบชีวิตนี้ คำตอบคือตัวผมเอง ผมคนเดียวเท่านั้น เป็นเรื่องง่ายที่จะพูดถึงจุดจบ แต่ยากที่จะทำมัน และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้ผมมีชีวิตมาถึงทุกวันนี้

ผมบอกตัวเองว่าอยากที่จะวิ่งหนี วิ่งหนีไปจากทุกคนและตัวของผมเอง ผมถามตัวเองว่าเป็นใคร ผมก็เห็นแต่ตัวเอง ทำไมผมถึงจำอะไรไม่ได้ นั่นก็เพราะตัวผมเอง เพราะฉะนั้นทั้งหมดนี่คือความผิดของผม ผมอยากให้คนอื่นรับรู้ แต่ไม่มีใครรู้ แน่นอนว่าไม่มีใครเคยรู้จักผมจริงๆ จึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ ถ้าถามว่าทำไมผมโกหกนั่นเป็นเพราะว่าผมเหนื่อย ผมเหนื่อยและทนกับโรคนี้มานานแล้ว และไม่เคยที่จะมีอาการดีขึ้น มันคือความเจ็บปวดทั้งหมด และความเจ็บปวดนี้เองที่หยุดไม่ให้จบชีวิตของตัวเอง ทำไมผมถึงจะทำในสิ่งที่ผมต้องการไม่ได้ พวกเขาถามผมว่าทำไมผมถึงเศร้า มันเป็นเพราะตัวผมเอง นั่นใช่มั้ยคือสิ่งที่คุณหมออยากจะได้ยิน ไม่นะ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เมื่อมีคนบอกผมว่าสาเหตุของโรคนี้เกิดจากนิสัยของผมเอง ผมก็คิดนะว่า “เป็นหมอนี่มันง่ายนะ” มันแปลกที่มันเจ็บปวดมากขนาดนี้ คนที่แย่กว่าผมกลับไม่เป็นไร คนที่อ่อนแอกว่าผมกลับมีชีวิตที่ดี หรือไม่เรื่องนี้อาจจะไม่จริง อาจจะไม่มีใครที่มีชีวิตอยู่ที่มีความทุกข์หรืออ่อนแอกว่าผม ผมถามตัวเองหลายครั้งว่าทำไมถึงไม่มีชีวิตอยู่ต่อ การมีชีวิตอยู่ต่อมันไม่ใช่เพื่อผม แต่มันเป็นเพื่อพวกคุณ

ได้โปรดอย่าพูดอะไรเลยถ้าคุณไม่เข้าใจ ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร ผมบอกคุณไปแล้วว่าการมีชีวิตอยู่ต่อมันเจ็บปวดมากขนาดไหน ผมต้องมีเหตุผลที่แย่กว่านี้อีกหรอ ผมบอกคุณไปแล้ว คุณไม่ได้ฟังหรือไง อะไรที่คุณสามารถก้าวผ่านมันไปได้ จะไม่สร้างรอยแผลให้คุณทั้งชีวิต

การต่อสู้กับโลกใบนี้ไม่ใช่การเป็นตัวผม ความดังนี้ไม่ใช่ชีวิตสำหรับผม และนั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมทุกข์ที่สุด เพราะผมดัง แล้วทำไมผมถึงเลือกชีวิตนี้หรอ มันตลกมากเลยล่ะ ผมเองก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าจะอยู่ได้นานขนาดนี้ ผมไม่รู้จะพูดยังไง บอกผมทีสิว่าผมทำดีแล้ว ผมทำงานหนักพอแล้ว และถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถยิ้มออกกับเรื่องนี้ได้ อย่าโทษผมเลย คุณทำดีแล้ว คุณทำมามากพอแล้ว ลาก่อน”

ซึ่งการจากไปของ “จงฮยอน” ถือเป็นศิลปินเกาหลีที่มีชื่อเสียงอีกคน ที่ต้องมาจบชีวิตลงในปี 2017