Home ข่าวทั่วไปรอบวัน วินหัวร้อนจะแทงเทศกิจเข้าเรือนจำผัดแรก 12 วันศาลไม่ให้ประกัน

วินหัวร้อนจะแทงเทศกิจเข้าเรือนจำผัดแรก 12 วันศาลไม่ให้ประกัน

503
0
SHARE

 

 

นายสกานต์ มั่นคง อายุ 39 ปี  วินมอไซค์ที่ชักมีดคัตเตอร์จะทำร้ายเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทมขณะสกัดจับขี่บนทางเท้า ปากซอยลาดพร้าว 79  เมื่อเช้าวันที่ 1 ธ.ค.2561  เป็นคลิปโด่งดังทั่วประเทศ  ได้ถูกตำรวจ สน.โชคชัย เจ้าของคดีนำตัวไปที่ศาลอาญา ถนรรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ  ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3 – 14 ธ.ค.นี้  ต้องรอสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก รอผลวินิจฉัยบาดแผลผู้บาดเจ็บ และรอผลการตรวจสอบประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาจากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

 

คำร้องฝากขัง ตำรวจบรรยายพฤติการณ์อย่างละเอียดว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย.61 เวลาประมาณ 15.30 น.ขณะ นายสรศักดิ์ สระอุบล เจ้าหน้าที่เทศกิจ สำนักงานเขตวังทองหลาง ปฏิบัติหน้าที่กวดขันจับกุมผู้ขี่รถ จยย.บนทางเท้า  เมื่อมาถึงบริเวณหน้าปั้มแก๊ส ถนนลาดพร้าว ใกล้กับปาก ซ.ลาดพร้าว 79 แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กทม.พบ รถ จยย.ทะเบียน ลทจ 425 กทม. (รถ จยย.ส่วนบุคคล) ที่มี นายสกานต์ ผู้ต้องหา ใส่เสื้อวินรับจ้างสีส้ม หมายเลข 4 กำลังขี่ จยย.ลงมาจากทางเท้า จึงเรียกให้หยุดรถ และเข้าไปซักถามพร้อมตักเตือน แต่ผู้ต้องหากลับความไม่พอใจ พูดดูหมิ่นด้วยถ้อยคำหยาบคาย ผู้กล่าวหาจึงสอบถามกลับในเรื่องที่ทำกิริยาก้าวร้าว แต่ผู้ต้องหาก็ใช้มือทุบที่ไหล่ซ้าย ผู้กล่าวหาถึง 3 ครั้ง เมื่อผู้กล่าวหาจะนำอุปกรณ์ล็อกดิสเบรกมาล็อกรถ จยย.ผู้ต้องหาได้ชักมีดคัตเตอร์สีเขียวจากกระเป๋าเสื้อ แล้วใช้มือขวาจับหมวกกันน็อคจะตีผู้กล่าวหา โดยกระแทกใส่หน้าผู้กล่าวหา 1 ครั้ง แต่ผู้กล่าวหาได้ถอยหลบและใช้มือซ้ายยกป้องไว้ หมวกกันน็อคจึงโดนแขนซ้ายของผู้กล่าวหา ผู้ต้องหายังได้พูดจาดูหมิ่นผู้กล่าวหาอีกเพื่อต้องการจะให้เปิดกุญแจล็อคดิสเบรก เมื่อผู้กล่าวหาเปิดให้แล้วก็ได้แจ้งเหตุให้ตำรวจจราจร สน.โชคชัย ทราบ มาที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็เริ่มสงบอาการลง ผู้กล่าวหาจึงแจ้งให้ผู้ต้องหาไปยังสำนักงานเขตวังทองหลาง และยึดรถ จยย.ไว้ โดยเจ้าหน้าที่เทศกิจได้เปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาเป็นเงิน 5,000 บาท ข้อหา จอดหรือขับขี่รถ จยย.บนทางเท้า ตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดฯ พ.ศ.2535 จากนั้นผู้กล่าวหา ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีผู้ต้องหาในความผิดอื่น  วันที่ 1 ธ.ค.เวลา 16.00 น.ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาได้ขี่รถ จยย.บนทางเท้า และนำรถ จยย.ส่วนบุคคลมาใช้ขี่รับจ้างส่งผู้โดยสาร   เป็นการใช้รถไม่ตรงประเภทที่จดทะเบียนไว้ และยังพบว่าผู้ต้องหาไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถ จยย.สาธารณะด้วย และรถคันดังกล่าวก็ยังขาดต่อภาษีประจำปี และไม่ได้จัดทำ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535จึงดำเนินคดี 7 ข้อหา ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีหรือใช้อาวุธ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.138 วรรคสอง และ ม.140 วรรคแรก , ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ ม.136 , ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ม.391 , ผู้ใดพาอาวุธไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรฯ ม.371 ,ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร , ใช้รถไม่ตรงตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ , ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับรถ,ใช้รถที่จดทะเบียนแล้ว แต่ยังมิได้เสียภาษีประจำปีสำหรับรถให้ครบถ้วนถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด และใช้รถโดยไม่จัดทำประกันความเสียหายสำหรับผู้ประสบภัยโดยประกันภัยกับบริษัท ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ม.43 (7) , พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 ม.6 , 21 , 58 , 60 , 64 และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ม.7 และ 37

 

ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

ศาลพิจารณาคำร้อง และสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง จากนั้นญาติของนายสกานต์ ผู้ต้องหา ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการฝากขัง พร้อมเสนอศาลขอติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กำไลข้อเท้า EM ด้วย  ศาลพิจารณาแล้วหลักทรัพย์ที่ญาติของผู้ต้องหายื่นมานั้นไม่เพียงพอ   ไม่อนุญาตให้ประกันตัว ยกคำร้อง  จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัว นายสกานต์ ผู้ต้องหา ไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ผัดแรก 12 วัน

 

matemnews.com

3 ธันวาคม 2561