Home ข่าวทั่วไปรอบวัน 10  ข้อสัญญาประชาคม

10  ข้อสัญญาประชาคม

2006
0
SHARE

 

พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความสามัคคีปองดองในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปองดอง แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อบ่ายวันที่ 3 ก.ย.2560 ว่า สัญญาประชาคม เพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่จัดทำขึ้นจากการเปิดกว้างรับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน และกำหนดเป็นความตกลงของการอยู่ร่วมกัน ไม่ให้เกิดเงื่อนไขสุ่มเสี่ยงต่อความขัดแย้ง ที่ขยายไปสู่ความรุนแรงในอนาคต อยู่ระหว่างการสร้างการรับรู้และทำความเข้าใจกับประชาชน โดยเอกสารสัญญาประชาคมเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองฉบับสมบูรณ์อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์ และจะเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับประชาชนได้ง่ายขึ้น

 

นอกจากนี้ คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ฯ ได้สรุปย่อสาระสำคัญในสัญญาประชาคม ให้ประชาชนสามารถจดจำ ทำความเข้าใจและนำสู่การปฏิบัติได้ง่ายขึ้น ดังนี้

 

1.รู้รักสามัคคีร่วมกันสร้างสามัคคีปรองดอง ใช้สิทธิเสรีภาพตามกรอบของกฎหมาย ยอมรับความคิดต่าง เข้าใจประชาธิปไตย แก้ไขปัญหาด้วยระบบรัฐสภา

 

2.ยึดมั่นศาสตร์พระราชาต้องพัฒนาตนเอง นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ ประกอบอาชีพสุจริตและมีไมตรีจิตต่อกัน

 

3.ขจัดการทุจริตดำเนินชีวิตด้วยหลักคุณธรรม จริยธรรมและศีลธรรม มีความซื่อสัตย์ ร่วมกันต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

 

4.อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติร่วมแบ่งปันใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม คำนึงถึงความสมดุลและยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ร่วมมือกันสนับสนุนดูแล คุณภาพชีวิต ด้านสาธารณสุขและการศึกษาอย่างเท่าเทียม 5.ดูแลคุณภาพชีวิตทางด้านสาธารณสุขและการศึกษาอย่างเท่าเทียม

 

6.เคารพกฎหมายเชื่อมั่นและต้องปฏิบัติตามกฏหมาย โดยกระบวนการยุติธรรม ต้องทำงานอย่างอิสระเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ

 

7.รู้เท่าทันข่าวสารรับรู้ข่าวสารอย่างรอบคอบ ไม่เสนอข้อมูลที่บิดเบือนยั่วยุ ก่อให้เกิดความขัดแย้ง

 

8.ยึดมั่นกติกาสากลปฏิบัติตามกฎกติกาสากลระหว่างประเทศ โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ

 

9.ร่วมพัฒนาและปฏิรูปประเทศรับรู้ ร่วมคิด ร่วมทำ ด้วยพลังประชารัฐ สู่การเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างเป็นระบบและครบวงจร และ

 

10.เดินหน้ายุทธศาสตร์ชาติเรียนรู้ ร่วมมือและสนับสนุนขับเคลื่อนประเทศ ตามยุทธศาสตร์ชาติที่ร่วมกันกำหนด ให้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืน

 

ความตระหนักรู้และตื่นตัวต่อปัญหาสังคมที่มากขึ้นของทุกคน รวมถึงบทเรียนและผลกระทบจากความขัดแย้งอันยาวนานที่ผ่านมา เป็นส่วนสำคัญของที่มาแห่งความพยายามร่วมกัน ที่จะเดินหน้าออกจากความขัดแย้งและความเหลื่อมล้ำทางสังคมในวันนี้ ซึ่งดูสาระสำคัญของสัญญาประชาคมที่ร่วมกันกำหนดจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเพียงกรอบแนวทางปฏิบัติภายใต้กฎหมาย ที่เคยมีอยู่ในจิตสำนึกของคนไทยที่อาจถูกบิดบังหรือเลือนรางไปบ้างจากบริบทความขัดแย้งทางสังคมผ่านมา การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญสู่การปฏิรูปประเทศ จึงต้องการพลังแห่งความเชื่อมั่นและไว้วางใจซึ่งกันและกัน สัญญาประชาคมจึงเป็นสัญญาใจไทยทั้งชาติ ที่รอความร่วมมือจากทุกคน ตามบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกันไปในการนำประเทศไทยขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป

 

 

Matemnews.com  3  กันยายน 2560