Home ข่าวทั่วไปรอบวัน รัฎฐาธิปัตย์ สร้างอาณาจักรแห่งความกลัว

รัฎฐาธิปัตย์ สร้างอาณาจักรแห่งความกลัว

1205
0
SHARE

 

 

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถฃงแก่ผู้สื่อข่าวเม่อเช้าวันที่ 12 เมษายน 2561  แสดงความเห็นกรณีกที่ประชุมครม.วันที่ 11 เมษายน 2561 เห็นชอบการย้าย  ปลัดกระทรวงการคลัง  กับ เลขาธิการ สศช.ว่า

 

“ในฐานะที่ผมเป็นอดีตข้าราชการ  รู้สึกไม่สบายใจ ที่มีการย้ายข้าราชการระดับสูงในตำแหน่งสำคัญนอกฤดูกาลโยกย้าย สุ่มเสี่ยงทำลายระบบคุณธรรม ส่งผลให้ข้าราชการขาดขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่  ที่สำคัญได้สร้างอาณาจักรแห่งความกลัวให้เกิดขึ้นว่า รัฎฐาธิปัตย์จะทำอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ ไม่มีกฎมีเกณฑ์ในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ชอบด้วยการบริหารราชการแผ่นดิน และขาดหลักธรรมาภิบาล  ผมมีข้อสังเกตต่อการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้อยู่ 3 ประการ ดังนี้

1.ผู้ที่ถูกย้ายทั้งสองท่าน ถูกลดระดับหรือลดเกรดของงานทึ่รับผิดชอบลงอย่างสิ้นเชิง ราวฟ้ากับเหว ซึ่งในระบบราชการที่มีคุณธรรมจะไม่เกิดกรณีเช่นนี้อย่างแน่นอน

2.เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายนอกฤดูกาล ทั้งไม่ปรากฎว่าผู้ถูกแต่งตั้งถูกสอบสวนว่าการกระทำผิดใดๆ ในหน้าที่ราชการ

 

3.เป็นการแต่งตั้งข้ามห้วย ข้ามหน่วย ที่ไปปิดกั้นความเจริญก้าวหน้าของข้าราชการในหน่วยนั้นๆ จนขาดขวัญ กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่

 

กว่าข้าราชการผู้หนึ่งจะไต่เต้าขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงการคลัง และเลขาธิการ สศช.ได้ ถือว่าสูงสุดในชีวิตของข้าราชการประจำในองค์กรนั้นๆ หากไม่มีหลักเกณฑ์ที่เป็นหลักประกันความมั่นคงในการรับราชการแล้ว ในระบบราชการไทยคงสมองไหลไปเรื่อยๆ ไม่มีทางที่จะตามทันภาคเอกชนและต่างประเทศได้ การรัฐประหารครั้งนี้ นอกจากทำลายระบบการเมืองให้อ่อนแอ ยังทำลายระบบคุณธรรมในการแต่งตั้งข้าราชการ ซึ่งขอยกตัวอย่างอีก 2 ตัวอย่างให้สังคมได้เห็น ดังนี้ มีการย้ายผู้ว่าราชการจังหวัดหลายคนไปประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  สุดท้ายก็ไม่ปรากฎความผิด เสียชื่อเสียเสียงไป ทั้งไม่ได้รับการเยียวยาใดๆ จนเกษียณอายุราชการไป หรือมีการพักงานนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัด เป็นเวลานานนับปี ยังไม่มีวี่แววว่าผลการสอบสวนจะเป็นประการใด มีแต่เสียงร่ำลือว่า ต้องช่วยฝั่งรัฐบาลถึงจะหลุดจากข้อกล่าวหาที่ถูกพักงาน  ผมยังมองไม่ออกว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร จะเสียหายขนาดไหน ถ้าทั้งระบบการเมือง และข้าราชการไม่มีความมั่นคง แต่ที่ทุกข์หนักที่สุดขณะนี้ก็คือ ประชาชนในระดับฐานรากที่หาเช้า กินค่ำ วันๆ หนึ่งจะหารายได้โดยสุจริต วันละ 200 – 300 บาทต่อวัน ช่างยากเย็นแสนเข็ญ ตรงข้ามกับผู้ที่รับเงินเดือน รับเงินประจำตำแหน่งหลายทาง ไม่รู้หรอกว่าความทุกข์ยากของประชาชนเป็นอย่างไร ขอฝากภาคส่วนต่างๆ ช่วยกันคิดว่า เราจะหาทางออกให้บ้านเมืองหลุดจากความผิดปกติทางด้านการเมือง การปกครองได้อย่างไร เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของประเทศชาติและประชาชน”

 

matemnews.com  12 เษายน 2561