Home ข่าวทั่วไปรอบวัน “ณัฐชนน ไพโรจน์” นักศึกษา มธ. เข้ารับทราบ ม.112 โดนมีเพนกวิน-รุ้ง ร่วมให้กำลังใจ

“ณัฐชนน ไพโรจน์” นักศึกษา มธ. เข้ารับทราบ ม.112 โดนมีเพนกวิน-รุ้ง ร่วมให้กำลังใจ

250
0
SHARE

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ม.ค. 64 ที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายณัฐชนน ไพโรจน์ นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหามาตรา 112 ที่สถานีตำรวจภูธรคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดยมี นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ นางสาวปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล และสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประมาณ 10 คน เดินทางมาให้กำลังใจณัฐชนน หลังจากกรณีการจัดทำหนังสือ “ปรากฎการณ์สะท้านฟ้า 10 สิงหา ข้อเรียกร้องว่าด้วยสถาบันกษัตริย์ โดนทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.อ.ฤทธินันท์ ปุ้ยพันธ์วงศ์ รอง.ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล จำนวน 1 กองร้อย พร้อมแผงเหล็กมากั้นพื้นที่โรงพักไว้ เพื่อความสงบเรียบร้อย

ทางด้าน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า ผมมีข้อสังเกตุอยู่ 2 ประเด็นว่า เดิมทีหนังสือปรากฎการณ์สะท้านฟ้า มีการตรวจยึดไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย. 2563 ซึ่งเป็นการถอดเทปคำปราศัยของคุณอานนท์ นำภา รุ้ง-ปนัสยา ไมค์-ภาณุพงษ์ เพนกวิน-พริษฐ์ แต่หลังจากที่มีการตรวจยึดไปก็ไม่เคยมีการดำเนินคดีในเรื่องนี้ จนกระทั้ง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาแถลงการว่าจะใช้กฎหมายทุกเรื่อง ทุกมาตรา รวมถึงมาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมทุกคน ถึงได้มีการดำเนินคดีในครั้งนี้ ผมก็เลยมีข้อกังวนว่าการดำเนินคดีในครั้งนี้ เกี่ยวข้องกับนโยบายหรือคำแถลงการณ์ของ พลเอกประยุทธ์ จันทน์โอชา หรือไม่อย่างไร

ประเด็นที่ 2 หนังสือเล่นนี้ ไม่มีคำปราศัยที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาเลย คือผู้ต้องหาไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในหนังสือ ดังนั้นการเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ก็เป็นข้อห่วงกังวน และเป็นคำถามว่า ผู้ต้องหาเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไร และเรื่องนี้ก็ต้องขึ้นไปฟังพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

ทางด้าน นายเพนกวิน-พริษฐ์ กล่าวว่า วันนี้พวกเราพากันมาให้กำลังน้องณัฐ ทางออนไลน์ โดยจะมีการตั้งจอ เพื่อให้พี่น้องได้ให้กำลังใจร่วมกันผ่านทางออนไลน์ โดยไม่มีการสุ่มเสี่ยงต่อโรค

สำหรับหนังสือ “ปรากฎการณ์สะท้านฟ้า 10 สิงหา ข้อเรียกร้องว่าด้วยสถาบันกษัตริย์” (ปกสีแดง) เป็นหนังสือถอดเทปคำปราศรัยของแกนนำ 4 ราย ได้แก่ อานนท์ นำภา, ภาณุพงศ์ จาดนอก, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และพริษฐ์ ชิวารักษ์ ในการชุมนุม #ธรรมศาสตร์จะไม่ทน เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 63 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตโดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2563 ก่อนการชุมนุมใหญ่ #19กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ที่สนามหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบได้นำกำลังเข้าตรวจยึดหนังสือดังกล่าวจำนวน 49,990 เล่ม จากบ้านพักของนักศึกษาใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเตรียมจะนำไปแจกจ่ายในที่ชุมนุม การตรวจยึดดังกล่าวเกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีหมายค้น เพียงแต่อ้างว่าจะนำหนังสือไปตรวจสอบว่ามีเนื้อหาล้มล้างการปกครองหรือไม่ ทำให้กลุ่มนักศึกษายังไม่ได้นำหนังสือเล่มดังกล่าวไปแจกจ่ายในที่ชุมนุมแต่อย่างใด

จากนั้นเวลาประมาณ 10.30 น. ทางกลุ่มนักศึกษาได้นำลำโพง และ จอโปรเจคเตอร์ มาตั้งเพื่อเตรียมเปิดให้เพื่อนที่ไม่ได้มาส่งกำลังใจให้ณัฐชนน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เข้ามาขัดขวาง เพราะพื้นที่ สภ.คลองหลวง ได้ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุม โดยห้ามผู้ได้ประพฤติตนก่อความวุ่นวาย ห้ามมิให้นำเครื่องขยายเสียงมาเปิด จึงขนเครื่องเสียงกลับไปที่รถ ทำให้ทางผู้มาให้กำลังใจไม่พอใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้มีความรุนแรงอะไร พร้อมทั้งยอมออกจากพื้นที่ดังกล่าว แล้วไปตั้งใหม่อยู่ริมถนนหน้าโรงพักแทน ก่อนที่นายณัฐชนน พร้อม ทนายความได้เดินเข้าไปเพื่อพบกับพนักงานสอบสวนที่รออยู่ด้านบน

เวลา 11.30 น. นายณัฐชนน พร้อม ทนายความได้เดินทางลงมา พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่า ทางตำรวจได้แจ้งให้ทราบว่ามีการฟ้องเรื่องอะไรบ้าง ทำผิดอะไรบ้าง เราไปทำอะไรมาบ้าง ซึ่งบางอย่างก็จริงบางอย่างก็ไม่จริง บางอย่างก็จำเป็นที่ต้องถกเถียงและก็พูดคุยกันอยู่ว่ามันถูกต้องหรือผิดอย่างไร ซึ่งยังมีความคุมเครืออยู่ อยู่ในหลายจุด ซึ่งทางเราก็จะได้รวมรวบพยานหลักฐานส่งตำรวจอีกทีเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งในเบื้องต้นตนปฏิเสธ ข้อกล่าวหา

ทางด้าน ทนายกล่าวเสริมว่า ประเด็นแรก การแจ้งข้อกล่าวหาเนี้ย เป็นการแจ้งข้อหาจากหนังสือปรากฎการณ์สะท้านฟ้า ซึ่งเป็นการรวมคำปราศัยของแก่นนำต่างๆ ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่มีคำปราศัยของคุณณัฐชนนเลย ประเด็นที่สองเนื้อหาในคำปราศัยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตย์ อาทิเช่น การเสนอเกี่ยวข้องกับมาตรารัฐธรรมนูญ หรือว่าพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์สิน ของสถาบันพระมหากษัตย์ นี่ก็จะต้องเป็นประเด็นที่จะต้องมาดูกันอีกว่าผิดหรือไม่อย่างไร แต่ที่สำคัญก็คือการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้คำปราศัยทั้งหมดผู้ต้องหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคำปราศัยเลย