Home ข่าวทั่วไปรอบวัน “เดลต้าพลัส” แพร่เร็วขึ้น 15 % – รอฟังกรมวิทย์ฯ แถลงวันนี้!!

“เดลต้าพลัส” แพร่เร็วขึ้น 15 % – รอฟังกรมวิทย์ฯ แถลงวันนี้!!

135
0
SHARE

วันที่ 26 ตุลาคม 2564 เกาะติด Covid-19 โควิด-ไทย
หมอเฉลิมชัยชี้โควิด ‘เดลต้าพลัส’ แพร่เชื้อเร็วขึ้น 15% จับตากรมวิทยาศาสตร์ฯแถลงรายละเอียดวันนี้.

จากกรณีที่ นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน เปิดเผยถึงการพบชายอายุ 49 ปี มีประวัติทำงานที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีการส่งตัวอย่างที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทางทหาร กองทัพบก (AFRIMS) พบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ AY.4.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์เดลต้า ทว่า เป็นการตรวจพบตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 ปัจจุบันผู้ป่วยได้รักษาหายแล้ว มีการสุ่มตรวจรายอื่นๆ และยังไม่พบผู้ติดเชื้อที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายดังกล่าว

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว “ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย” ระบุถึงการพบสายพันธุ์เดลต้าพลัสในประเทศไทยว่า ไทยพบไวรัสเดลต้าพลัส (Delta Plus) รายแรกที่อยุธยา แพร่ระบาดเร็วขึ้น 15% หลังจากที่มีข่าวการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์เดลต้าพลัสในอังกฤษ โดยพบจำนวนผู้ติดเชื้อ 6% จนทางการอังกฤษจัดให้เป็น VUI (Variant Under Investigation) เนื่องจากมีความสามารถในการระบาดเพิ่มขึ้น 15% แต่ยังไม่ได้ยกระดับขึ้นเป็นไวรัสที่น่าเป็นกังวล : VOC (Variant of Concern) เพราะยังขาดข้อมูลเรื่องความรุนแรงในการก่อโรค และการดื้อต่อวัคซีน

“ไวรัสเดลต้าพลัสเป็นปัจจัยที่ทางอังกฤษให้ความสนใจ เพราะเกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกับที่มีการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ติดเชื้อหลายหมื่นคนต่อวัน แต่คงไม่ได้เกิดจากปัจจัยไวรัส Delta Plus เพียงลำพัง แต่น่าจะเกิดจากการผ่อนคลายมาตรการของทางการอังกฤษ ร่วมกับการที่ประชาชนอังกฤษหย่อนวินัยในการป้องกันโรคระบาด

“ทางกรมควบคุมโรคได้แถลงว่า พบไวรัส Delta Plus ที่อยุธยา จากการถอดรหัสจีโนม ซึ่งทำเป็นประจำอยู่แล้ว และเคยพบว่ามีสายพันธุ์ย่อยของไวรัสเดลต้าในประเทศไทย 4 สายพันธุ์ ซึ่งไม่ได้มีลักษณะการแพร่ระบาด หรือความสามารถในการก่อโรครุนแรง แตกต่างกับไวรัสสายพันธุ์เดลต้า ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564

“ในช่วงเดือนกันยายน 2564 จากการถอดรหัสตามปกติ ได้พบผู้ติดเชื้อที่จังหวัดอยุธยา เป็นไวรัสเดลต้าพลัส ( AY.4.2) จึงสมควรที่จะทำความรู้จักไวรัสก่อโรคโควิด และไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์ย่อย เดลตาพลัส ดังนี้

1.โควิดเกิดจากไวรัสตระกูลโคโรนาลำดับที่ 7

2.ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสอาร์เอ็นเอ (RNA) ที่เป็นสารพันธุกรรมเดี่ยว ไม่เหมือนสิ่งมีชีวิตอื่นที่มีดีเอ็นเอ (DNA) ที่เป็นสารพันธุกรรมคู่

3.สิ่งมีชีวิตสารพันธุกรรมเดี่ยว จะมีการกลายพันธุ์ได้ง่าย

4.จากการกลายพันธุ์ของไวรัสโคโรนา ขณะนี้มีจำนวนโดยประมาณมากกว่า 1,000 สายพันธุ์หลักและสายพันธุ์ย่อย

5.ในการแบ่งกลุ่มไวรัสสายพันธุ์ต่างๆ จะใช้เรื่องความสามารถในการแพร่ระบาด ความรุนแรงในการก่อโรค และการดื้อต่อวัคซีน โดยกลุ่มที่ถือว่ามีความสำคัญก็คือกลุ่มที่น่ากังวล (VOC) ได้แก่ อัลฟ่า เบต้า แกมม่า และเดลต้า

6.ในกลุ่มไวรัสเดลต้านั้น พบสายพันธุ์ย่อยแล้วกว่า 20 สายพันธุ์ โดยในเดือนสิงหาคม 2564 ไทยพบ 4 สายพันธุ์ย่อย ซึ่งไม่มีไวรัสสายพันธุ์เดลต้าพลัส

7.ไวรัสสายพันธุ์เดลต้าพลัสเป็นสายพันธุ์ย่อยจากสายพันธุ์ที่เคยพบเมื่อเดือนสิงหาคมแล้ว และขณะนี้พบระบาดในประเทศอังกฤษ

8.ขณะนี้ประเทศไทยได้พบไวรัสเดลต้าพลัสหนึ่งราย นับเป็นรายแรกที่อยุธยา

9.เดลต้าพลัสเป็นไวรัสสายพันธุ์ย่อย ที่พบว่ามีการระบาดกว้างขวางรวดเร็วกว่าไวรัสเดลต้า 15% ส่วนความรุนแรงในการก่อโรคและการดื้อต่อวัคซีนยังไม่มีการรายงาน

“กล่าวโดยสรุป ไทยได้พบไวรัสสายพันธุ์เดลต้าพลัสแล้ว นับเป็นรายแรกที่อยุธยา และยังไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ เพิ่มเติม กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะแถลงรายละเอียดในวันที่ 26 ตุลาคม 2564

“เดลต้าพลัสแพร่รวดเร็วขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไวรัสสายพันธุ์เดลต้า จึงสมควรจะต้องระมัดระวัง แต่ยังไม่ต้องตระหนกตกใจ เพียงแต่ให้ตระหนักว่าไวรัสมีความสามารถในการปรับตัวเก่งมาก มนุษย์จึงต้องต่อสู้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องวินัยในการป้องกันตนเอง การเร่งฉีดวัคซีน ตลอดจนมาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลทุกประเทศจะต้องระดมออกมาเพื่อควบคุมโรคระบาดครั้งนี้”

ที่มา มติชนออนไลน์