ศาลออกนั่งบัลลังค์ ห้อง 709 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษาก เมื่อตอนเช้าสันที่ 18 ต.ค.2560 อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาคดีฆ่า “นายเอกยุทธ อัญชันบุตร” คดีดำ อ.3307/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
1.นายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล อายุ 25 ปี
2.นายสุทธิพงศ์ พิมพิสาร หรือเบิ้ม อายุ 30 ปี
3.นายชวลิต วุ่นชุม หรือเชาว์ อายุ 25 ปี,
4.นายทิวากร เกื้อทอง หรือทิว อายุ 20 ปี,
5.จ.ส.อ.อิทธิพล เพ็งด้วง อายุ 53 ปี พ่อนายบอล
6.นางจิตอำไพ เพ็งด้วง อายุ 50 ปี แม่นายบอล
ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-6 ในความผิดฐานร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน,ใช้กำลังประทุษร้ายทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายและข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมกระทำการใดฯ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นให้ปราศจากเสรีภาพฯ, ร่วมกันปล้นทรัพย์, รับของโจร และ พาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควรฯ
รวมความผิด 8 ข้อหา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 199, 289, 309, 310, 340, 357, 371 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490
คดีนี้ เมื่อระหว่างวันที่ 6 – 9 มิ.ย. 2556 ต่อเนื่องกัน จำเลยที่ 1-2 ร่วมกันมีอาวุธปืนพกออโต้เมติก ขนาด 9 ม.ม. ทะเบียน กท.5203330 พร้อมเครื่องกระสุนและอาวุธมีด ปล้นเอาทรัพย์สินของ นายเอกยุทธ อัญชันบุตร อายุ 59 ปี อดีตนักธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ รวม 9 รายการ มูลค่า 6.6 ล้านบาท โดยใช้อาวุธทำร้าย และหน่วงเหนี่ยวกักขังบังคับให้นายเอกยุทธ ออกเช็คเบิกถอนเงิน ก่อนใช้เชือกรัดคอจน นายเอกยุทธ ถึงแก่ความตาย แล้วนำศพขึ้นรถยนต์ตู้ ทะเบียน ฮพ 9304 ไปฝังไว้ในไร่นาสวนผสมทิ้งร้าง ท้องที่ อ.เมือง จ.พัทลุง เพื่อปกปิดความผิด โดยมีจำเลยที่ 3 – 4 ช่วยขุดหลุมฝังศพ ส่วนจำเลยที่ 5-6 ซึ่งเป็นบิดา-มารดาของจำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บเงินสดของผู้ตาย จำนวน 4,242,000 บาท ที่จำเลยที่ 1 บุตรชายนำไปฝากไว้
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2557 ให้ประหารชีวิตนายสันติภาพ หรือบอล และนายสุทธิพงศ์ หรือเบิ้ม จำเลยที่ 1-2 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ แต่คำให้การชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์อยู่บ้างจึงลดโทษ เหลือจำคุกตลอดชีวิต และให้จำเลยที่ 1 – 2 ร่วมกันชดใช้เงิน จำนวน 1.9 ล้านบาท ให้แก่ทายาทของผู้ตายด้วย
ส่วนนายชวลิต หรือเชาว์ จำเลยที่ 3 มีความผิด ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และร่วมกันซ่อนเร้นศพฯ จำคุก 13 เดือน โดยให้รวมโทษ ที่รอการลงอาญาไว้ในคดีเดิมอีก 6 เดือนด้วย รวมจำคุก 19 เดือน
นายทิวากร หรือทิว จำเลยที่ 4 ให้จำคุก 8 เดือน ฐานร่วมกันซ่อนเร้นศพฯ
จ.ส.อ.อิทธิพล และ นางจิตอำไพ จำเลยที่ 5 – 6 พ่อแม่ของนายบอล ให้ลงโทษฐานรับของโจร แต่จำเลยรับสารภาพ และช่วยติดตามนำเงินของกลางมาคืนจำนวน 4.4 ล้านบาท จึงพิพากษาให้จำคุกคนละ 1 ปี 4 เดือน
ต่อมาวันที่ 30 มิ.ย. 2559 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จากนั้น จ.ส.อ.อิทธิพล จำเลยที่ 5 ยื่นฎีกาเพียงคนเดียวขอให้ศาล ฎีการอการลงโทษด้วย
วันนี้ จ.ส.อ.อิทธิพล จำเลยที่ 5 ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างฎีกา เดินทางมาศาล
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า ที่จำเลยที่ 5 ยื่นฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้น ข้อเท็จจริงฟังเป็นที่ยุติว่าจำเลยได้รับเงินของกลางจำนวน 4 ล้านบาท จากนางจิตอำไพ จำเลยที่ 6 ภรรยา ซึ่งรับเงินจากนายสันติภาพ จำเลยที่ 1 โดยรู้ว่า เป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำมาผิด และแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งนำไปซุกซ่อนฝังดิน จำเลยที่ 5 ในฐานะบิดารู้ว่าบุตรของตนกระทำผิดกฎหมายกลับไม่ห้ามปราม และยังช่วยซุกซ่อนทรัพย์สินอีก ถือว่ามีส่วนให้เกิดอาชญากรรม เป็นเรื่องร้ายแรงต่อสังคม จึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ฎีกาจำเลยที่ 5 ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลอุทธรณ์ พิพากษา มานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนจำคุก 1 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
หลังศาลอ่านคำพิพากษฎีกาเสร็จ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัว จ.ส.อ.อิทธิพล จำเลยที่ 5 ไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
จำเลยอื่นๆซึ่งไม่ยื่นฎีกาถือว่าคดีถึงที่สุด ให้บังคับโทษตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
Matemnews.com 18 ตุลาคม 2560