เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2560 ที่สำนักงานเทศบาลตำบลหัวเวียง ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา กลุ่มสิงห์อาสา โดยบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และ มูลนิธิพระยาภิรมย์ภักดี, บริษัท วังน้อยเบเวอเรซ จำกัด พร้อมด้วย เครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคกลางจาก 20 สถาบัน ได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อมอบเครื่องอุปโภค บริโภค น้ำดื่มกว่า 5,000 ลิตร ข้าวสารกว่า 3.5 ตัน อาหารแห้ง รวมทั้ง อาหารปรุงสุกจำนวน 500 ชุด แจกจ่ายช่วยเหลือให้กับพี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ชุมชนเทศบาลตำบลหัวเวียง โดยมี นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหัวเวียง พร้อมด้วย ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ร่วมรับมอบ
นายรังสฤษดิ์ ลักษิตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มสิงห์อาสา ได้จับมือกับเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาจากหลายสถาบันที่มีจิตอาสา มารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมากลุ่มสิงห์อาสาได้ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับปัญหาน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้รับผลกระทบจากพายุต่างๆ รวมถึงล่าสุด พายุใต้ฝุ่น “ขนุน” ทำให้เกิดฝนตกหนักครอบคลุมในหลายพื้นที่ ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และพื้นที่ กรุงเทพฯ บวกกับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมเป็นวงกว้างส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เราพบว่า หลายอำเภอเกิดประสบภัยน้ำท่วมสะสม พี่น้องประชาชนหลายหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ขาดแคลน น้ำดื่ม และอาหารรับประทาน บรรดาเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาได้แบ่งหน้าที่ทำงานอย่างขะมักเขม้น เดินเท้าทางบก และ ลุยน้ำท่วม เพื่อลำเรียงน้ำดื่ม ข้าวสารและอาหารกล่องเข้าไปมอบให้การช่วยเหลือถึงมือพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง
“วันนี้ สิงห์อาสา ผนึกกำลังกับเหล่าบรรดาเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคกลาง รวบรวมเหล่าบรรดาจิตอาสาเข้าพื้นที่ให้การช่วยเหลือ ในตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา นำน้ำดื่มกว่า 5,000 ลิตร ข้าวสารตราพันดี 3,500 กิโลกรัม พร้อมทั้งข้าวกล่องจากชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารจำนวน 500 ชุด ซึ่งหลังจากนี้นักศึกษาจิตอาสาของทีมสิงห์อาสา จะติดตามข้อมูลเพิ่มเติ่มว่า ในพื้นที่ไหน หมู่บ้าน ตำบลใด และ อำเภอใด มีประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วม ก็จะนำน้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทุกพื้นที่”
นายธเนศ สนธิ นายกเทศมนตรีหัวเวียง กล่าวว่า “พื้นที่ตำบลหัวเวียงเป็นที่ลุ่มต่ำ มีทั้งสิ้น 23 ชุมชน 1,787 ครัวเรือน โดยประสบภัยน้ำท่วมเต็มพื้นที่ ส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหาคือพื้นที่ชุมชน ส่วนพื้นที่เกษตรกรรมไม่มีผลกระทบเพราะเก็บเกี่ยวเสร็จก่อนน้ำท่วม โดยน้ำเริ่มท่วมตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม เป็นต้นมา แต่มาเริ่มวิกฤติ ตั้งแต่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา ระดับน้ำต่างจากปี 2554 ที่ท่วมหนัก แค่ 40-50 เซนติเมตร คาดการณ์ว่าระดับน้ำคงจะลดภายใน 2 เดือนหลังจากนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณ กลุ่มสิงห์อาสา ที่เข้ามาช่วยเขตพื้นที่หัวเวียงเป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะพื้นที่ หมู่ 11 ที่มีประชากร 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้เป็นอย่างดี ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างยิ่ง”
ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลุ่มสิงห์อาสาพร้อมด้วยน้องๆนักศึกษาที่เป็นเครือข่ายสิงห์อาสาจากหลายสถาบัน ได้รวมตัวกันลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคอีสาน ภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลาง ทีมสิงห์อาสาและเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาจากภาคกลาง จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมาแล้ว ตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 60 ที่ผ่านมา โดยให้ความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ต่างๆ ดังนี้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และ อ.ผักไห่ อ.บางปะอิน อ.บางบาล อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา และล่าสุด ต.หัวเวียง อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่ง บ.บุญรอดฯ และกลุ่มสิงห์อาสา นำน้ำดื่มไปมอบให้มาแล้วกว่า 45,000 ลิตร และข้าวสารตราพันดีกว่า 7,000 กิโลกรัม แจกจ่ายให้พี่น้องผู้ประสบภัย
สำหรับเครือข่ายนักศึกษาสิงห์อาสาภาคกลาง กว่า 80 คน จาก 20 สถาบัน ที่เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสาครั้งนี้ ประกอบด้วย
1.มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
2.มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
3.มหาวิทยาลัยรังสิต
4.มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
5.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร
6.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
7.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
8.จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9.มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
10.มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
11.มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
12.มหาวิทยาลัยสวนดุสิต 13.มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสวนสุนันทา
14.มหาวิทยาลัยศิลปากร
15.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
16.มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ฯ
17.มหาวิทยาลัยมหิดล
18.มหาวิทยาลัยหัวเฉียว
19.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ และ
20.มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา
”
Matemnews.com 20 ตุลาคม 2560
