http://thainews.prd.go.th
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงกรณีมีการเสนอข่าวกรณีการทำเอกสารเท็จการขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดของกรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) ซึ่งพบมีอยู่หลายล๊อต แต่มีอยู่ 1 ล๊อต ที่มียอดจำนวน รถ 111 คัน อาจเชื่อมโยงกับ โครงการการแลกเปลี่ยนรถชำรุด 128 คัน ของ ทบ. โดยกรมการขนส่งทหารบกนั้นว่า กรณีโครงการการแลกเปลี่ยนรถชำรุด 128 คัน ของ ทบ.เป็นโครงการที่ ทบ.ให้มีการดำเนินการจริงในห้วง ก.ย.58 แต่กรณีการอ้างถึงการประมูลซากรถของ ทบ.โดย กรมการขนส่งทหารบกนั้นเป็นลักษณะการปลอมเอกสาร เพื่อจะนำไปใช้ในทางที่มิชอบ.โดย พ.อ.ภพกฤตฯ (ปัจจุบันอยู่ระห่วงการเสนอปลดออกจากราชการ) พบมีการทำเป็นล๊อตๆ หลายล๊อต รวม 8 ฉบับ รวมยอดรถจำนวน 1,136 คัน ตามที่เป็นข่าวอยู่ขณะนี้ หนึ่งในนั้นมีอยู่ล๊อตหนึ่งที่มียอดรถ 111 คัน เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกันกับโครงการการแลกเปลี่ยนรถชำรุด 128 คัน ของ ทบ.โดยกรม ขส.ทบ.พอดี จึงมีการผสมโรง. แอบนำเอาเอกสารปลอม ในล๊อต 111 คันนั้น มาสอดไส้ในเอกสาร เพื่อให้ มีการลงนามโดย พ.อ.ประกาศฯ ในฐานะ ผอ.กองคลังที่รับผิดชอบคุมบัญชีรถ ไปพร้อมกันกับโครงการแลกเปลี่ยนรถยนต์ชุด 128 คันของ ทบ. ซึ่งต่อมาเมื่อทางกรมการขนส่งทางบกได้รับบัญชีรถแล้ว. ได้มีการขอรีเช็คกลับมาที่ ขส.ทบ.เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ทาง พ.อ.ประกาศฯ จึงพบว่ามีเอกสารปลอมปนไปกับ โครงการแลกเปลี่ยนรถ 128 คัน ด้วย จึงเป็นผู้ที่ตอบกลับไปใหม่ทันทีว่าเอกสารวบัญชีรถฉบับนั้นไม่ถูกต้อง และขอยกเลิก เอกสารฉบับดังกล่าวทันทีเมื่อ 24 พ.ย.58
พ.อ.วินธัย ชี้แจงต่อไปว่า กรณีเปิดเผยข้อมูลว่ามีการประมูลขายทอดตลาดรถยนต์ชำรุดดังกล่าว เป็นจำนวนกว่า 1 พันคัน มีรถหลากหลายประเภท รวมถึงรถที่ไม่เคยอยู่ในบัญชีคุมใช้งานของ ทบ. ซึ่งอาจมีกลุ่มบุคคล ใช้วิธีการเอารถที่ไม่เคยอยู่ในบัญชีใช้งานของ ทบ. มาสวมผ่านบัญชีการประมูลจำหน่ายซากรถของทางราชการ มีปรากฎชื่อนายทหารระดับพันโทและพันเอกอย่างน้อย 4 นายมีชื่ออยู่ในเอกสารปลอมนั้น ว่าข้อมูลดังกล่าว อยู่ในแนวทางใกล้เคียง กับที่ ข้อสันนิษฐานในเบื้องต้นของ ทบ. และ กรมขนส่งทางบก รวมถึง จนท.ผู้รับผิดชอบคดี
สำหรับกรณีมีนำเสนอข่าว พ.อ.ประกาศ เพยาว์น้อย ขณะเป็น ผอ.กองคลัง ขส.ทบ.เกี่ยวข้องกับการประมูลลอตดังกล่าว และเป็นผู้ทำบัญชีส่งให้ส่วนควบคุมบัญชีรถและเครื่องยนต์ กรมการขนส่งทางบก เมื่อวันที่ 8 ก.ย.2558 ได้ยอมรับว่าเป็นคนเซ็นหนังสือขอนำส่งบัญชียานพาหนะดังกล่าวจริง แต่เป็นการเข้าใจผิดว่าเป็นลอตที่มีการแลกเปลี่ยนรถจำนวน 128 คัน ซึ่งได้มีการชี้แจงพร้อมส่งเอกสารแก้ไขไปยังกรมการขนส่งทางบกแล้ว
พ.อ.วินธัย ชี้แจงว่าในช่วงตั้งแต่ ปี 57 จนปัจจุบัน ทบ.โดย ขส. ทบ. ไม่เคยมีการจัดให้มีการจำหน่ายรถออกจากบัญชีคุมด้วยวิธีการประมูล ระยะหลังการจะจำหน่ายรถออกจากบัญชีคุมจะจัดทำเป็นโครงการแลกเปลี่ยนเป็นหลัก ดังนั้นเรื่องของการประมูลซากรถตามที่เป็นข่าวอยู่หลักๆ เป็นเรื่องที่กลุ่มมิจฉาชีพได้ร่วมกันทำเอกสารปลอมขึ้นมาเพื่อจะหาประโยชน์ในทางที่มิชอบทั้งสิ้น
Matemnews.com 15 กรกฎาคม 2560