นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2560 ว่า ตามที่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงด้วยตัวเองว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งเฟสบุ๊คจะมาประเทศไทยและจะเข้าพบในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ และต่อมาเฟซบุ๊คได้แถลงปฏิเสธไปแล้วนั้น
คงต้องถามไปยัง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หลังจากหายป่วยว่า มีปัญหาในการติดต่อสื่อสารอย่างไร ซึ่งเป็นการเสียเครดิตอย่างมาก ไม่แน่ใจว่ามีการยืนยันกันแต่แรกหรือไม่ เพราะ เฟซบุ๊ค ที่เป็นบริษัทเทคโนโลยีสมัยใหม่ คงจะไม่อยากมีภาพที่ไปสนับสนุนแนวทางที่ไม่น่าจะใช่ทิศทางของคนรุ่นใหม่ อีกทั้งหลายนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น พรบ. คอมพิวเตอร์ ซิงเกิลเกตเวย์ และการควบคุมข้อมูลในเฟซบุ๊ค ยังเป็นแนวทางที่ตรงข้ามกับแนวทางของเฟซบุ๊คที่ปกป้องและส่งเสริมให้ผู้ใช้มีเสรีภาพขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เฟซบุ๊คได้ปฏิเสธการมาเยือนในครั้งนี้
และหากจำกันได้ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เสียเครดิต เพราะก่อนหน้านี้ นายแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้ง อาลีบาบา ได้มาเยือนไทยหลายหน และ นายสมคิดก็ไปเยือนจีน แต่สุดท้ายนายแจ๊ค หม่า กลับไปเลือก ประเทศมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าในภูมิภาค โดยบอกว่า ตัดสินใจทันทีหลังจากที่พบกับผู้นำประเทศมาเลเซียเพียง 10 นาทีเท่านั้น ในขณะที่ไทยเจรจาอยู่หลายครั้ง ทั้งที่โดยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์แล้วประเทศไทยเหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้ามากกว่ามาเลเซียมาก
ต่อมารัฐบาลก็แถลงแก้เก้อว่า นาย แจ๊ค หม่า และ อาลีบาบา จะลงทุนในประเทศไทยมากกว่าที่ลงทุนในประเทศมาเลเซีย แต่ไม่ปรากฏว่า นายแจ๊ค หม่า และ อาลีบาบา มีการแถลงเรื่องนี้แต่อย่างใด มีแต่รัฐบาลไทยแถลงเอง โดยทั้งนี้ อาลีบาบา อาจจะมีการลงทุนบ้างเพราะเขาคงลงทุนทุกประเทศแต่คงไม่ได้เป็นศูนย์กลางอย่างที่ลงทุนในประเทศมาเลเซีย ซึ่งนับการเสียเครดิตซ้ำซ้อน และเป็นการเสียโอกาสของประเทศไทยอย่างมาก หากประเทศไทยมีการปกครองที่เป็นที่ยอมรับ ประเทศไทยคงจะไม่เสียโอกาสเช่นนี้ ดังนั้นการกลับสู่ระบอบการปกครองที่เป็นที่ยอมรับโดยเร็วจึงเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวหน้าต่อไปได้
Matemnews.com 22 ตุลาคม 2560