เฟชบุ้ค Wassana Nanuam รายงาน
สรุปบทเรียน เป็นประวัติศาสตร์
“พลเอกประวิตร” ปิด” กอร.พระราชพิธีฯ” พอใจ การดูแลความสงบเรียบร้อย สรุปบทเรียน เป็นประวัติศาสตร์/ขอบคุณทุกภาคส่วน ดูแลเรียบร้อย/ ส่งมอบพื้นที่ ให้ กอร.รส./ทภ.1 ดูแล เตรียมพร้อมรับ ปชช.ชม พระเมรุมาศ
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม กองอำนวยการร่วมพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (กอร.พระราชพิธีฯ) ครั้งสุดท้าย
โดยมีปลัดกห. ผบ.สส. ผบ.เหล่าทัพ ส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม ที่กลาโหม
พล.อ.ประวิตร แถลงภายหลังการประชุม ว่า ทุกอย่างมีความเรียบร้อยดี และมีความปลอดภัย เพราะได้รับความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะประชาชน รวมทั้งการสร้างความรับรู้ของกรมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบว่าพื้นที่อยู่ พื้นที่กิน อยู่ตรงไหน พื้นที่ขบวนเสด็จผ่านเส้นทางใด จนทำให้ประชาชนให้ความร่วมมืออย่างดียิ่ง ทุกอย่างจึงเรียบร้อย
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตัวเลขประชาชนที่เข้าร่วมพระราชพิธีทั้งหมด ประมาณ 2 แสนกว่าคน
ส่วนพื้นที่วางจิตกาธาน วางดอกไม้จันทน์ตามต่างจังหวัดที่พบว่ามีบางพื้นที่ไม่วางแผนงานนั้น มีบางพื้นที่ เท่านั้น ทางกระทรวงมหาดไทยพยายามแก้ไขหน้างานอยู่แล้ว เช่น บริเวณพุทธมณฑลนั้น พบว่าประชาชนรอคิวนาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็พยายามแก้ไขปัญหาให้วางได้หลายจุด
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า สำหรับการเปิดให้ประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศนั้น ทางกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรม มหาราชวัง (กอร.รส.) กองทัพภาคที่1 เป็นผู้ดูแลหลัก เพราะ กอร.ร่วมพระราชพิธีปิดศูนย์ในวันนี้
โดยจากนี้ไปจะใช้เจ้าหน้าที่จิตอาสา มาช่วยเหลือประชาชนเข้าชมพระเมรุมาศหรือไม่นั้น ผมคิดว่าทุกคนตั้งใจมาช่วยพระราชพิธีนี้ อีกทั้งกรณีนี้เป็นงานเฉพาะกิจ ซึ่งต่อไปคงจะใช้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ส่วนการเปิดพระเมรุมาศให้ประชาชนเข้าชมนั้นจะเปิดตั้งแต่วันที่2-30 พฤศจิกายน แต่จะขยายเวลาออกไปหรือไม่นั้น เราจะต้องประเมินสถานการณ์ และดูจำนวนคนก่อน อย่าเพิ่งไปคาดการณ์ล่วงหน้า
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปเราจะสรุปบทเรียนทุกงานของงานพระราชพิธีฯ โดยจัดทำเป็นหนังสือ เพื่อเป็นประวัติศาสตร์ต่อไป
พลเอกประวิตร. ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานทั่วประเทศที่เข้ามาช่วยกันทั้งทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ของกระทรวงมหาดไทย
พล.ท.คงชีพ คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวสรุปภาพรวมว่า การอำนวยการงานที่สำคัญด้านต่างๆ ทั้งในพื้นที่ กทม.และ 76 จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1-30 ตุลาคม ที่ผ่านมา ทั้งด้านการถวายความปลอดภัย การดูแลความปลอดภัยสถานที่และรักษาความปลอดภัยบุคคลสำคัญ การอำนวยความสะดวกการจราจร การบริการด้านอื่นๆ เช่น การขนส่ง การแพทย์ ด้านอาหาร เครื่องดื่มและสุขา
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ ซึ่งในภาพรวมการควบคุม อำนวยการและการกำกับดูแล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประชาชน เดินทางเข้าร่วมพระราชพิธีในพื้นที่ชั้นใน รอบบริเวณพระบรมมหาราชวังและมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อ 25 – 26 ตุลาคม รวมประมาณ 230,000 คน
และประชาชนร่วมรับเสด็จฯ ในพระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ เมื่อ 27 ตุลาคม ประมาณ 24,000 คน. สำหรับพื้นที่จัดสร้างพระเมรุมาศจำลองและจุดวางดอกไม้จันทน์ มีประชาชนมาร่วมวางดอกไม้จันทน์ใน กทม.จำนวนประมาณ 3,300,000 คน และต่างจังหวัด จำนวนประมาณ 16,170,000 คน
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ คณะกรรมการอำนวยการและเจ้าหน้าที่ทุกคนจากทุกส่วนราชการทั่วประเทศ ที่ได้ทุ่มเท ตั้งใจทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ต่อเนื่อง 24 ชม.ตลอดเดือน ตุลาคม ที่ผ่านมา
โดยเป็นการทำงานด้วยหัวใจของความจงรักภักดีร่วมกัน เพื่อให้งานพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งนี้ สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติสูงสุด
พร้อมกับขอให้นำปัญหาและการดำเนินงานที่ผ่านมา สรุปเป็นบทเรียนการทำงานร่วมกัน เพื่อบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของหน่วยงานต่อไป
พร้อมกันนี้ยังขอขอบคุณประชาชนคนไทยทุกคนทั่วประเทศ ที่มีนำ้ใจและพยายามเข้าใจ ให้ความร่วมมือกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่ร่วมกันเตรียมงานและอำนวยการงานพระราชพิธีนี้ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ด้วยความมีหัวใจเดียวกัน ก็ได้ร่วมกันคลี่คลายแก้ไขด้วยความเข้าใจร่วมกันด้วยดี
พล.ท.คงชีพ กล่าวว่า การทำงานของ กองอำนวยการร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ศาลาว่าการกลาโหม ถือว่าสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล
และจะส่งมอบพื้นที่ให้กับกองทัพภาคที่ 1 โดย กอร.รส. ทภ.1 ตั้งแต่ 30 ตุลาคม เป็นต้นไป เพื่อเตรียมพื้นที่ สำหรับดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกประชาชน ที่จะเปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศและนิทรรศการ ต้ังแต่ 2 พฤศจิกายน เป็นต้นไป ตลอดเดือน.
Matemnews.com 30 ตุลาคม 2560