Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เหลือเวลาอีก 157 วัน “หมวดเจี๊ยบ” แถลงข่าว

เหลือเวลาอีก 157 วัน “หมวดเจี๊ยบ” แถลงข่าว

644
0
SHARE

 

 

ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต อดีตรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 30 ต.ค.2560 ว่า คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ คสช. ควรเลิกถ่วงเวลาในการปลดล็อคพรรคการเมืองได้แล้ว ไม่อย่างนั้น เราอาจเห็นพรรคการเมืองขนาดเล็กจำนวนมากต้องสูญพันธ์หรืออาจถูกยุบพรรค เพราะขาดคุณสมบัติในการส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้ง โดยเฉพาะพรรคขนาดเล็กและมีระบบไม่แข็งแรง เนื่องจากอาจไม่สามารถทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ใน พรป. ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ 2560 เช่น การเพิ่มจำนวนสมาชิก การเพิ่มเงินทุนประเดิมพรรค และการเพิ่มสาขาพรรคตามจำนวนขั้นต่ำที่ ก.ม. กำหนด ซึ่งต้องดำเนินการผ่านที่ประชุมพรรค และต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค 60 ซึ่งเป็นวันที่ พรป. ว่าด้วยพรรคการเมืองดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้ ซึ่งขณะนี้ พรรคการเมืองเก่ามีเวลาดำเนินการเหลือแค่ 157 วัน เท่านั้น ไม่ถึง 180 วัน ด้วยซ้ำ และจะยิ่งนับถอยหลังลงไปเรื่อย ๆ ทุกวัน แต่ คสช. กลับทำเป็นเฉยเรื่องปลดล็อคพรรคการเมือง เหมือนกับจงใจให้พรรคการเมืองทำงานไม่ทัน ไหนยังจะต้องเผื่อเวลาให้ กกต. ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่อีก ไม่ทราบว่าพวกท่านต้องการเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะสื่อมวลชนโจษจันหนาหูเหลือเกินว่า คสช. กำลังแอบตั้งพรรคการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ ซึ่งพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่นั้น กฎหมายไม่ได้บังคับเรื่องเงื่อนเวลา 180 วันเอาไว้ ย่อมได้ประโยชน์ในกรณีนี้

 

เรื่องนี้สะท้อนว่า คสช. และ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่จริงใจในการคืนอำนาจให้ประชาชนและไม่จริงจังกับการปฏิบัติตามโร้ดแม็ป ทั้ง ๆ ที่ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ รัฐบาลและ คสช. จึงไม่ควรพูดจาส่งเดชในเรื่องโร้ดแม็ป ที่สำคัญ พวกท่านควรหยุดโทษคนอื่นเสียทีว่าเป็นต้นตอของปัญหาทางการเมือง เพราะตัวเองก็เป็นคู่ขัดแย้งทางการเมืองเหมือนกัน จึงถือว่ามีส่วนก่อปัญหาในบ้านเมืองด้วย อย่ามาทำเป็นลืมหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แถมพวกท่านยังได้ประโยชน์มากที่สุด เพราะฉวยโอกาสยึดอำนาจโดยอ้างเรื่องความขัดแย้ง แต่พอเข้ามาบริหารประเทศ ก็ไม่มีศักยภาพในการแก้ปัญหาความเดือดร้อน ทำให้ประชาชนมีความอดอยากปากแห้ง และมีความทุกข์มากกว่าในอดีตเสียอีก จงอย่าทำผิดซ้ำซาก เหมือนที่แอบผลาญงบประมาณแผ่นดินเพื่อจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วที่มีราคาแพงเกินความจำเป็น ในขณะที่ประชาชนทั้งประเทศกำลังรัดเข็มขัดและบ้านเรือนราษฎรหลายจังหวัดยังจมอยู่ใต้น้ำซึ่งท่วมสูงจนมิดหลังคาบ้าน โดยที่รัฐบาลช่วยอะไรไม่ได้ แต่พอเป็นเรื่องผลประโยชน์ของนายทุน รัฐบาลกลับมีปัญญาแอบประกาศใช้ ม.44 ยกเว้นการบังคับใช้ก.ม. ผังเมือง ใน 3 จังหวัดชายทะเลภาคตะวันออกที่เป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ทั้ง ๆ ที่ นักวิชาการและสื่อมวลชนคัดค้านเพราะกลัวว่า อาจเปิดช่องให้นายทุนเข้าไปสูบผลประโยชน์ทางทะเลของชาติและทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างไรก็ได้ โดยไม่ต้องขออนุญาตใครเนื่องจากไม่มี ก.ม. ควบคุมอีกแล้ว เป็นต้น

 

Matemnews.com  30 ตุลาคม 2560