นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 31 ต.ค.2560 ว่า ตามที่มีนักวิชาการจำนวนมากออกมาตำหนิรัฐบาลที่ออก ม.44 กำหนดผังเมืองในเขตระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งจะมีการถมทะเล และเป็นการหลีกเลี่ยงการทำ EIA ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและประชาชนจำนวนมากที่อาศัยในเขตอีอีซี อีกทั้งนักวิชาการยังตำหนิในเรื่องความเหมาะสมในการออก ม. 44 ในช่วงเวลาสำคัญของประเทศ ทั้งๆที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เคยตำหนิคนอื่นในเรื่องกาละเทศะในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสับสนในวิธีคิดและแนวทางในการพัฒนาประเทศ โดยแม้ผมเองจะเห็นด้วยกับอีอีซี ที่เป็นการขยายเขตเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ประเทศไทยในแนวทาง ไทยแลนด์ 4.0 แบบสากล จะต้องคำถึงอุตสาหกรรมสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีสูงอีกทั้งต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอุตสาหกรรมเหล่านี้สามารถผ่าน EIA ได้อยู่แล้ว นอกจากรัฐบาลจะมีเจตนาต้องการจะนำอุตสาหกรรมที่จะมีปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาลงทุน ซึ่งไม่น่าจะใช่ทิศทางที่ถูกต้อง จริงอยู่ แม้ปัจจุบันรัฐบาลมีปัญหาเรื่องการลงทุนจากภาคเอกชนทั้งจากต่างประเทศและในประเทศที่ลดลงอย่างมาก แต่การจะส่งเสริมให้มีการลงทุนโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบในอนาคตไม่น่าจะเป็นทิศทางที่ถูกต้อง เพราะจะส่งผลกระทบต่อประเทศในอนาคตมากกว่า ปัญหาต่างๆที่ได้เกิดขึ้นแม้กระทั่ง ปัญหาน้ำท่วมอย่างมากในปัจจุบันที่รัฐบาลพยายามจะปฏิเสธความรุนแรงของปัญหา ก็เกิดมาจากปัญหาการละเลยสภาพแวดล้อมตั้งแต่ในอดีตทั้งสิ้น แล้วรัฐบาลจะมาสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นกับประเทศในอนาคตเป็นเรื่องสมควรหรือไม่ ในต่างประเทศได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทพลังงานใหญ่ๆ ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับสภาพแวดล้อมจนเกิดพายุรุนแรงมากมายกันแล้ว และในประเทศไทย หากเกิดผลกระทบในอนาคตกับประชาชน ประชาชนก็อาจจะเรียกร้องความเสียหายกับรัฐบาลและบริษัทที่ทำให้เกิดผลกระทบนี้ได้ ดังนั้นจึงอยากให้รัฐบาลมีกรอบคิดที่ดีในการพัฒนาประเทศ อย่าคิดแก้ปัญหาการลงทุนที่หดหายแบบเฉพาะหน้า และ อย่าคิดไปอย่าง แต่ทำไปอีกอย่าง เพราะจะทำให้ประเทศไม่สามารถพัฒนาไปในแนวทางที่ถูกต้องได้
Matemnews.com 31 ตุลาคม 2560
