นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2560 ว่า จากการพบปะประชาชนทั่วไป และจากการแลกเปลี่ยนความเห็นกับอดีต ส.ส.ทั้งในพรรคและต่างพรรค ล้วนให้ความเห็นตรงกันว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นปัญหาสำคัญที่ประชาชนระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศกำลังเดือดร้อนอย่างที่สุด และปัญหาดังกล่าวได้ลุกลามขึ้นมายังคนชั้นกลาง อันอาจจะส่งผลให้เกิดวิกฤติจนยากจะแก้ไข หากประเทศยังไม่ได้รับการฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา นอกจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้องจะเป็นปัญหาสำคัญที่รัฐบาลแก้ไม่ได้มากว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งนับว่านานเกินเหตุ และปัจจุบันรัฐบาลตลอดจนองค์กรตามรัฐธรรมนูญกำลังประสบปัญหาจริยธรรมเสื่อมทรุดเสียเองหรือไม่ เพราะได้ประกาศต่อสาธารณชนเป็นระยะๆ ว่าจะปฏิรูปประเทศ ให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตคอรัปชั่น สร้างคุณธรรมจริยธรรมในการบริหารราชการ แต่กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเสียเองในประเด็นดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการทุจริตคอรัปชั่น 2 มาตรฐาน สัจจะของผู้นำฝ่ายบริหารที่ให้ไว้ต่อนานาชาติในเรื่องการคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชน รวมถึงกรณีประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เสนอแต่งตั้งลูกสาวของตัวเองเป็นรองเลขาธิการประจำคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่งตั้งบุคคลที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ กำลังตรวจสอบความโปร่งใส เข้ามาเป็น กมธ.พิจารณากฎหมาย ป.ป.ช. ทั้งหมดนี้จึงก่อให้เกิดวิกฤตศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล ผลโพลถึงความนิยมที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ลดลงอย่างชัดเจน รวมทั้งผลโพลยังให้ปลดล็อกพรรคการเมืองในเปอร์เซ็นต์ที่ค่อนข้างสูง ซึ่งทางออกในเรื่องนี้ คสช.และรัฐบาล ควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศที่สากลยอมรับ คือ ควรรีบคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนที่ชัดเจน และโดยเร็ว
Matemnews.com 6 พฤศจิกายน 2560