Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์แถลงข่าวเรื่องเครื่องสแกนม่านตา

พลเอกประยุทธ์แถลงข่าวเรื่องเครื่องสแกนม่านตา

953
0
SHARE

 

 

สื่อมวลชนรายงานตรงกันมาหลายวันแล้วว่า  การที่ นายวรานนท์ ปิติวรรณ  ถูกย้ายออกจากอธิบดีกรมการจัดหางาน  ด้วยมาตรา 44 ไปเป็นรองปลัดกระทรวงแรงงาน เพราะไม่ยอมจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา ตามที่ “ดอกเตอร์ อ” เสนอนั้น  เมื่อถึงวันอังคาร 7 พ.ย.2560 นักข่าวได้โอกาสถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในระหว่างแถลงข่าวหลังการประชุมครม. ปม  ดอกเตอร์ อ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ย้อนถามนักข่าวว่า “อะไร อะไร”  แล้วกล่าวต่อว่า

 

 

“ ถ้ามีก็เป็นคณะทำงานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี   มีหน้าที่ให้คำปรึกษามาที่ผม จากนั้นผมจะส่งไปให้คณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดินทั้ง 6 คณะ   ที่มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในแต่ละคณะ นำไปขับเคลื่อน ดังนั้นคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีไม่ยุ่งเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง   หรือไปบังคับให้หน่วยงานต่างๆต้องมีอะไร  เรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์  ได้มอบหมายให้ไปศึกษาว่ามีความจำเป็นหรือไม่ อย่างไร ขณะที่ปัจจุบัน เราเร่งแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์  ส่วนการทำประมงผิดกฎหมายเป็นเรื่องของแรงงานในเรือและบนบก ทั้งนี้ เราตรวจพบว่าที่ผ่านมา การตรวจสอบลายลักษณ์บุคคลโดยลายนิ้วมือและภาพถ่ายมีปัญหาความคลาดเคลื่อน โดยเมื่อแรงงานทำงานได้สักระยะ   ต้องใช้มือมาก ทำให้ลายนิ้วมืออาจไม่ชัดเจน ดังนั้น การเก็บข้อมูลไบโอเมตทริกซ์ทำให้พิสูจน์ได้ดีขึ้น ไม่สามารถบิดเบือนอะไร จึงช่วยแก้ปัญหาการทุจริตในระบบ รวมถึงการจ้างแรงงาน และการย้ายเปลี่ยนงาน เนื่องจากเครื่องเหล่านี้มีความผิดพลาดน้อยมาก  นอกจากนี้รัฐบาลในอดีตสมัยที่  นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ เป็นรมว.แรงงาน เคยใช้งบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ในวงเงิน 400 กว่าล้านบาท แต่ไม่ได้ใช้งาน โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  กำลังตรวจสอบเรื่องนี้   เราต้องเร่งพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานต่างด้าวในขณะนี้ โดยใช้เครื่องมือของกรมเจ้าท่า  แต่ถ้ามีไม่เพียงพอ ก็ต้องจัดหา  ส่วนผู้จัดหาต้องดูว่าตรงตามระเบียบของใคร ขณะที่ราคาไม่ได้มากมายอะไรขนาดนั้น เพราะระบบใหม่นี้ใช้หน่วยงานราชการทำ ซึ่งบางระบบจะเสียแค่ค่าเช่า ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายโดยคูณตัวเลขเป็นพันเป็นหมื่น ไม่ได้ใช้เอกชนทำ   มีแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าไม่สามารถพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ หรือข้อมูลต่างๆไม่สมบูรณ์ ก็จะมีปัญหาทางคดีต่างๆอีกมาก   การทุจริตก็จะเกิดขึ้น เกิดปัญหาการเปลี่ยนโอนย้ายงานอีกมาก และไม่เกี่ยวกับกรณีของอธิบดีกรมการจัดหางานอะไรทั้งสิ้น  กรณีที่พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  ท่านบอกผมว่าขอไปพักผ่อน และใบลาออกเขียนระบุว่าขอไปประกอบธุรกิจส่วนตัว แล้วจะให้ผมตอบอย่างอื่นได้อย่างไร เพราะเขาไม่ได้อธิบายอย่างอื่นให้ผมรู้   แต่ไม่เป็นไร ใครจะลาออก็ออกได้ ขออย่าเอาเรื่องนี้มาพันกัน จบได้แล้ว เพราะตอนนี้ให้พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รักษาราชการไปก่อน หรืออาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังได้ ขออย่ากังวล และรักษาการ รมว.แรงงาน ไปประชุมและเร่งรัดในหลายเรื่องเมื่อวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่ได้มีปัญหาอะไรในกระทรวงแรงงาน อย่าไปขยายความกันอีกเลย”

 

หลังจากนั้น ในตอนบ่าย พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  แถลงข่าวแก่สื่อมวลชน ว่า  ในที่ประชุม คสช.รับทราบคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 49/2560 เรื่องพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว นอกจากนี้มีข้อเสนอจากสหภาพยุโรป   เสนอว่าต้องใช้วิธีสแกนม่านตาในแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะในภาคประมง เพราะถ้าเก็บลายนิ้วมือโอกาสคลาดเคลื่อนสูง   การกล่าวหาว่า การซื้อเครื่องสแกนม่านตา อาจมีการทุจริตประพฤติมิชอบ   ขอยืนยันว่าไม่ได้ใช้งบประมาณเป็นพันล้านหมื่นล้าน แต่ใช้เพียง 120 ล้านบาทเท่านั้น   เป็นงบประมาณเบื้องต้นในการจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา เพราะเครื่องอ่านราคาแพง   เราไม่จำเป็นต้องจัดซื้อ และไม่มีการเรียกเก็บเงินครั้งละ 45 บาทในการขอข้อมูลการอ่านม่านตา รวมถึงกระแสข่าวว่าการย้ายอธิบดีกรมการจัดหางาน เพราะขัดขวางการจัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ก็ไม่เป็นความจริง   ยืนยันว่าในที่ประชุมวันนี้ยังไม่มีการอนุมัติจัดซื้อเครื่องสแกนม่านตา  เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณาการเก็บข้อมูลพิสูจน์ตัวบุคคลของแรงงานต่างด้าว จะเป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์ และกำหนดหน่วยงานที่จะเป็นผู้จัดซื้อจัดจ้างเครื่องสแกนม่านตา คาดว่าอาจเป็นกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน  โดยการจัดซื้อเป็นไปตามระเบียบ

 

Matemnews.com  7 พฤศจิกายน 2560