หลายๆคนเมื่อได้ไปเที่ยวที่ไหนมา ก็มักจะเปิดพันทิป เล่าเรื่องราวที่ได้ไปเจอะเจอมา ให้คนอื่นๆได้อ่านกัน เผื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก ของบางคนที่กำลังมองหาที่เที่ยวในยามที่ว่าง
แต่ครั้งนี้ คุณแม่วัย 70 ปี ขอรีวิวบ้าง แต่ถ้าหากใครจะเอามาเป็นตัวเลือกเพื่อไปเที่ยวตามบ้างนั้น คงเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะคุณแม่รายนี้ เอาทริปพาลูกเที่ยว “แฮปปี้แลนด์” เมื่อ 40 ปีก่อน มาให้ชาวพันทิปได้อ่านรำลึก พร้อมภาพในสมัยนั้น ที่เก็บความสนุกสนาน ของแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่มีให้เที่ยวแล้ว
“เผอิญได้อ่านเรื่องราวที่แม่ๆสมัยนี้ พาลูกเที่ยว แล้วก็มาเขียนรีวิวเล่าสู่กันฟังในพันทิป
อ่านแล้วก็นึกสนุก อยากจะมาเล่าเรื่องทริปพาลูกเที่ยวของตัวเองดูบ้าง
เลยไปรื้ออัลบั้มภาพเก่าๆมาประกอบคำบรรยาย ลองอ่านกันเล่นๆ
เผื่อคนสมัยนี้อาจจะไม่เคยไป เพราะหลายๆที่ ตอนนี้มันไม่มีแล้ว
ถือซะว่าเปลี่ยนบรรยากาศมาอ่านรีวิวท่องเที่ยวจากคนแก่อายุ 70 ปีดูบ้าง
สถานที่ที่จะมารีวิววันนี้ คือ แฮปปี้แลนด์”
“สมัยที่แม่พาลูกไปเที่ยว ตอนนั้นปี 2521 เศรษฐกิจสมัยนั้นยังไม่ค่อยดี คนส่วนใหญ่ยังมีรายได้ไม่มากนัก
จำได้ว่าทองยังบาทละไม่เกิน 3,800 บาท แต่ค่าเข้าสวนสนุกราคา 50 บาท (เด็กเข้าฟรี) ถือว่าแพงเลยทีเดียว
การไปเที่ยวทีนึง จึงถือเป็นเรื่องใหญ่
แฮปปี้แลนด์ที่ปัจจุบันกลายเป็นตลาดสดแฮปปี้แลนด์ หรือหลายคนอาจจะรู้จักในฐานะปลายทางรถเมล์สาย 8 ไปแล้วนั้น
ในสมัยเมื่อสัก 40 ปีก่อนนั้นเป็นสถานที่ที่น่าเที่ยว ตื่นเต้นมากๆ สำหรับคนกรุงเทพ มองจากภายนอกเวลานั่งรถผ่าน
จะเห็นเป็นปราสาทแบบฝรั่งดูใหญ่โต ใครๆก็มองจนต้องเหลียวหลัง แม่ก็ตั้งใจว่าสักวันหนึ่งจะต้องพาลูกมาเที่ยวสักครั้ง”
“แล้วแม่กับสามีก็ตัดสินใจจะพาลูกไปเที่ยวกับเค้าบ้าง พวกเราเตรียมตัวกันเป็นอาทิตย์
สมัยนั้นเราเปิดร้านขายเสื้อผ้าอยู่แถวราชวัตร วันนั้น เราตัดใจปิดร้านวันนึง ทั้งๆที่ปกติเปิดทุกวันทั้งปีไม่เคยปิด
ไม่ว่าจะเทศกาลอะไรก็ตาม พวกเราสามพ่อแม่ลูก ลูกชายแม่ตอนนั้นอายุยังไม่สองขวบดี
เราต้องอาศัยนั่งรถเพื่อนไปด้วยกันจากราชวัตรไปถึงลาดพร้าว แถวๆคลองจั่น
ซึ่งขณะนั้นยังเป็นทุ่งนาเต็มไปหมด แต่ถึงแม้รถจะไม่ติด ก็ยังกินเวลาเดินทางเกือบชั่วโมงกว่า”
“และก็คงเพราะเราไม่ได้ออกมาเที่ยวกันบ่อยๆ ได้เที่ยวกันที พวกเราก็เลยแต่งตัวกันเต็มที่
แฟชั่นผู้หญิงสมัยนั้นนิยมใส่ชุดเป็นเสื้อและกระโปรงลายดอกไม้สีสวยๆเข้าชุดกัน ผ้าโปร่งๆใส่สบาย
ส่วนผู้ชายนิยมใส่กางเกงทรงมอส หัวเข่าฟิต ปลายขาบานนิดนึง เก๋ทีเดียว
เสียดายไม่มีภาพของสามีให้อวดเสื้อผ้าผู้ชายเลย เพราะแกต้องรับหน้าที่เป็นตากล้องให้พวกเราตลอด
ยุคนั้นมันไม่มีกล้องเซลฟี่ แถมกล้องสมัยก่อนถ่ายง่ายเสียที่ไหน ต้องปรับอะไรเยอะไปหมด แม่ถ่ายไม่เป็นหรอก
ขออนุญาตเล่าบรรยากาศข้างในไปพร้อมๆกับรูป”
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://pantip.com/topic/37060397