Home ข่าวทั่วไปรอบวัน อัยการยื่นศาลฎีกาให้พิจารณาลับหลังนายทักษิณ 2 คดี

อัยการยื่นศาลฎีกาให้พิจารณาลับหลังนายทักษิณ 2 คดี

631
0
SHARE

 

 

นายวันชาติ สันติกุญชร โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมรองโฆษกอีก 3 คน ร่วมกันแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน  ที่สำนักงานอัยการสูงสุด  เมื่อบ่ายวันที่ 21 พ.ย.2560  ถึงมติการพิจารณาคดีใหม่ของ   นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังพ.ร.ป.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำเเหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ได้มีการเเก้ไขบทบัญญัติให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาลับหลังโดยไม่มีตัวจำเลยได้ ซึางมีผลบังคับใช้แล้ว

 

 

คณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนคดี ที่ดำเนินการโดย   คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.)  สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่มี นายพรศักดิ์ ศรีณรงค์ รองอัยการสูงสุด ซเป็นหัวหน้าคณะทำงาน   ได้ตรวจสอบคดีของอดีตนักการเมือง ที่อยู่ในสาระบบของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  แล้วพบว่า    มีคดีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลไว้แล้ว รวม 2 สำนวน

 

1.คดีหมายเลขดำ อม.9/2551 ที่กล่าวหานายทักษิณทุจริตออกกฎหมายแปลงสัมปทานโทรคมนาคมและมือถือเป็นภาษีสรรพสามิต

 

2.คดี อม.3/2555 ที่กล่าวหานายทักษิณ ร่วมทุจริตการปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยฯให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร

 

ทั้ง 2 คดี ศาลได้สั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว เนื่องจากนายทักษิณจำเลยหลบหนีบัดนี้  คณะทำงานอัยการได้มีความเห็นสนอต่อ นายเข็มชัย ชุติวงศ์  อัยการสูงสุด  ซึ่ง   อสส.ได้เห็นพ้องกับคณะทำงาน ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวของนายทักษิณทั้ง 2 สำนวนดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้ศาฎีกาฯ มีคำสั่งดำเนินกระบวนพิจารณา คดีทั้ง 2 สำนวนต่อไป โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้านายทักษิณ จำเลย ตาม วิ อม.มาตรา 28 , 69 , 70

 

โดยช่วงเช้าวันที่ 21 พ.ย.2560 นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ แล้ว หลังจากนี้ต้องรอฟังคำสั่งของศาลว่าจะพิจารณาอย่างไร

 

หลังจากอัยการยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาฯ พิจารณาคดีลับหลังนายทักษิณต่อไปแล้วนั้น นายทักษิณ สามารถแต่งตั้งทนายความเข้ามาร่วมฟังการพิจารณาในครั้งนี้ได้  ส่วนเรื่องพยานหลักฐานที่จะไต่สวนนั้นเป็นเรื่องในสำนวนคดี พร้อมย้ำว่า การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตาม วิ อม.ใหม่ ซึ่งไม่ได้พุ่งเป้าว่าจะดำเนินการเฉพาะเจาะจงกับนายทักษิณ และครอบครัวเท่านั้น   และประเด็นในเรื่องอายุความทางคดี  ก็เป็นประเด็นที่ศาลจะพิจารณาต่อไปด้วย  คดีของนายทักษิณ ถือเป็นคดีแรกหลังจากมีการแก้ไขบทบัญญัติของ พ.ร.ป.วิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้สามารถดำเนินกระบวนพิจารณาโดยไม่มีตัวจำเลย หรือพิจารณาลับหลังได้  ก็ต้องดูว่า ศาลฎีกาฯ จะมีการพิจารณาอย่างไร แต่การที่อัยการได้ยื่นคำร้องไปเนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าเรื่องการพิจารณาคดีลับหลังจำเลยไม่ใช่หลักสาระบัญญัติ และเห็นว่ากระทำได้ตามกฎหมายจึงยื่นคำร้องไป

 

นายชาติพงษ์ จีระพันธุ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวเสริมว่า ตนในฐานะอัยการคดีพิเศษ ได้รับมอบหมายจากนายเข็มชัย อั ยการสูงสุด ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ โดยคำร้องดังกล่าวมีความยาวประมาณ 5 – 6 หน้า บรรยายถึงเหตุผลในการร้องขอให้มีการพิจารณาคดีของนายทักษิณ หลังจากที่ถูกจำหน่ายไว้ชั่วคราวเนื่องจากมีการแก้ไขกฎหมายใหม่

 

 

วันเดียวกัน นายพิชิฏ ชื่นบาน ทนายความของนายทักษิณ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ว่า ได้รับทราบตามที่อัยการแถลงข่าวแล้ว ตนเตรียมจะนำเข้าที่ประชุมคณะทนายความชุดเดิมที่ทำไว้ทั้ง 2 คดี เพื่อพิจารณาว่ามีความเห็นอย่างไรต่อไป และรอว่าศาลจะมีคำสั่งประการใด  คณะทนายจะพิจารณาประเด็นหลักเรื่องข้อกฎหมายตามที่อัยการแถลงข่าว ในมาตรา 27 , 28 และบทเฉพาะกาล ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ.2560 ที่มีการอ้างถึงนั้น ใช้บังคับกับคดีเก่าที่อัยการสูงสุดเคยยื่นฟ้องแล้วได้หรือไม่  เพราะคดีของนายทักษิณทั้ง 2 คดี เป็นคดีที่อัยการสูงสุดเคยยื่นฟ้องแล้ว และศาลออกหมายจับสั่งจำหน่ายเป็นคดีเก่าแล้ว  ดูเนื้อหาตามมาตรา 27 , 28 พิจารณาแล้วใช้เป็นกรณีการยื่นฟ้องตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2560   วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา 28 ก.ย.2560) จึงมองว่า   น่าจะเป็นคนละกรณีกับคดีของนายทักษิณ ทางฝ่ายกฎหมายจะต้องนำประเด็นนี้ไปหารือว่ามาตรา 28 ใช้บังคับกับคดีเก่าที่ศาลออกหมายจับไว้แล้วหรือไม่ และใช้บังคับกับคดีที่เกิดก่อนกฎหมายใช้บังคับวันที่ 29 ก.ย.2560ได้หรือไม่

 

 

 

Matemnews.com  22 พฤศจิกายน 2560