นายกรัฐมนตรีพบปะประชาชนชาวกาฬสินธุ์ ระบุรัฐบาลเริ่มเดินหน้าโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจัง ธ.ค.นี้ เพื่อขจัดความยากจน ให้ประชาชนมีอาชีพ รายได้ คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเป็นรูปธรรม
วันนี้ (13 ธันวาคม 2560) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมผู้ไทยผ้าไหมแพรวา เฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมกล่าวพบปะประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยมีนายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ และประชาชนมารอให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบเครื่องจักรกลการเกษตร และมอบโค-กระบือ ตามโครงการธนาคารโค-กระบือให้แก่ผู้แทนเกษตรกร เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยากจนทั่วประเทศได้มีโค-กระบือ ไว้ใช้แรงงานและเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เป็นการช่วยเกษตรกรให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวพบปะกับประชาชนตอนหนึ่งว่า การลงพื้นที่ในวันนี้มาพบกับประชาชนด้วยความคิดถึง มาพูดคุยเพื่อรับฟังปัญหาต่าง ๆ พร้อมกับนำคณะรัฐมนตรีมารับฟังปัญหาจากประชาชนด้วยตนเอง และเป็นโอกาสอันดีในการเสริมสร้างความเข้าใจระหว่างกัน เพราะเครื่องจักรในการขับเคลื่อนประเทศที่สำคัญคือประชาชนทุกคนต้องร่วมมือกัน ช่วยกันขับเคลื่อน และที่สำคัญเป็นพิเศษคือต้องการทำให้จังหวัดกาฬสินธุ์มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จากพื้นฐานของจังหวัดที่มีอยู่แล้ว ทั้งนี้ ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปสู่ประเทศไทย 4.0 คือใช้ชีวิตอย่างมีสติ มีปัญญา ใช้สมองในการแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิต โดยเริ่มจากภายในจากใจของตัวเองและจากความเข้มแข็งของชุมชนของคนในท้องถิ่น ให้ประชาชนมีรายได้นำกลับมาสู่รัฐบาลซึ่งไทยแลนด์ 4.0 ไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเก่งอย่างเดียว และที่สำคัญต้องสร้างความเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่ เช่น การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีอยู่แล้ว เช่น ผ้าไหมแพรวา พร้อมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำเกษตร อย่าทำเกษตรเชิงเดี่ยวเพราะไม่สามารถทำให้หลุดพ้นจากความยากจนได้ ต้องปลูกพืชเสริมสร้างความแตกต่างการทำการเกษตรที่เพียงพอกับความต้องการของตลาด
นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลทำงานเพื่อประชาชน และให้ความสำคัญในการดูแลคนจนและผู้มีรายได้น้อยเพื่อสร้างความเท่าเทียมและการเข้าถึงโอกาสโดยไม่ได้ปิดกั้นใคร ใครจะวิพากษ์วิจารณ์ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลไม่ได้ห้าม แต่ต้องอยู่ภายใต้กระบวนการของกฎหมาย ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันอย่างเท่าเทียมกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า นายกรัฐมนตรีก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง จำเป็นต้องทำให้ทุกคนปลอดภัยนำไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ เพื่อความมั่นคงมั่งคั่งอย่างยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังโดยรัฐบาลจะเดินหน้าโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนอย่างจริงจังในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อขจัดความยากจนตามแบบอย่างประเทศจีนที่ทำสำเร็จภายใน 5 ปี เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ก่อนออกเดินทางต่อไปยังอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบน ต.สงเปลือย อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ต่อไป
——————-
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
Matemnews.com 13 ธันวาคม 2560