Home ข่าวทั่วไปรอบวัน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2561

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2561

649
0
SHARE

 

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2561ชมเทคโนโลยีการให้บริการประชาชนด้านงานยุติธรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ชุด Justice 4.0

 

วันนี้ (4 ม.ค.61) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 1 ชั้น 9 กระทรวงยุติธรรม อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคาร A) ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2561 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นางเมธินี เทพมณี เลขาธิการ ก.พ. และศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงยุติธรรม คณะผู้บริหารของกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ

 

​          พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้เยี่ยมชมนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ณ บริเวณโถงห้องรับรองกระทรวงยุติธรรม ชั้น 2 ประกอบด้วย การนำเสนอเทคโนโลยีการให้บริการประชาชนด้านงานยุติธรรมของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ชุด Justice 4.0 อาทิ แอปพลิเคชัน “รู้หมดกฎหมาย” ของสำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายที่ประชาชนควรรู้ อีกทั้งผู้ใช้งานยังสามารถค้นหา อ่าน และแชร์ข้อมูลกฎหมาย และข่าวสารของกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งสามารถส่งเรื่องร้องเรียน และร้องทุกข์ผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ อีกทั้งระบบรับคำขอรับความช่วยเหลือ จากประชาชนผู้ยากไร้ เดือดร้อน เพื่อพิจารณาสนับสนุนค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ จากกองทุนยุติธรรม และแอปพลิเคชันบริการประชาชน DOP Service ของกรมคุมประพฤติ ซึ่งมีบริการตรวจสอบกำหนดนัดรายงานตัวออนไลน์สำหรับผู้ถูกคุมประพฤติ การให้ความรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของกรมคุมประพฤติ เป็นต้น

 

ในส่วนของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ได้เปิดบริการให้คำปรึกษากฎหมายผ่านเว็บไซต์ และ Video Call ผ่านทาง Line ID (RLPD consultation) การให้บริการด้านงานบังคับคดีผ่าน ระบบ E-Service ของกรมบังคับคดี รวมทั้งแอปพลิเคชัน DSI Map Extended ระบบแม่ข่ายแผนที่ผ่านอินเตอร์เน็ต และตรวจสอบการบุกรุกที่ดินของรัฐ ส่วนสำนักงานกิจการยุติธรรม ได้จัดทำ Law infographic ความรู้ด้านกฏหมายที่ปลายมือ เพียงสแกนคิวอาร์โค๊ด สามารถอ่านสมุดภาพอินโฟกราฟิกกฎหมายได้ฟรี  รวมถึงยังมีแอปพลิเคชัน “Spond” ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สำหรับการแจ้งบุคคลสูญหายและศพนิรนาม หรือภัยต่างๆ ไปยัง Contact Center และระบบการแจ้งข้อมูลสารเคมีควบคุม นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์สินค้าของเด็กและเยาวชน ภายใต้แบรนด์ “DJOP CENTER” จากกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน อาทิ ผลิตภัณฑ์ไข่ออร์แกนิค ผลิตภัณฑ์ Clean and Beauty ประเภทสบู่ ยาสระผมสมุนไพร และการสกรีนเสื้อ ของศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านกรุณา ตลอดจนผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากกรมราชทัณฑ์ อาทิ ชุดรับแขกหลุยส์ โต๊ะกลม ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากการฝึกวิชาชีพผู้ต้องขังประเภทช่างไม้จากเรือนจำกลางคลองเปรม งานประดิษฐ์บายศรี ผ้าคลุมโต๊ะโครเชต์ มาลัยคุณหญิงจากกระดาษทิชชู่ จากทัณฑสถานหญิงธนบุรี ชุดกระเป๋าสม็อค ชุดของขวัญ

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้ถวายสักการะพระพุทธภูมิพลาภิบาลทศพลญาณมุนีซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวงเพื่อความเป็นสิริมงคล และถ่ายภาพร่วมกับผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม ก่อนเข้าประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าครั้งที่ 1/2561 ณ ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม 1 ชั้น 9 ต่อไป   ​

 

โอกาสนี้  เลขาธิการ ก.พ. ได้เป็นผู้แทนคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ กล่าวอวยพรปีใหม่นายกรัฐมนตรี โดยขอให้นายกรัฐมนตรีมีสุขภาพที่แข็งแรง มีกำลังแรงกายและใจที่เข้มแข็งในการที่ทำงานบริหารประเทศต่อไป พร้อมกันนี้  นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอบขอบคุณคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงฯ สำหรับคำอวยพรปีใหม่ดังกล่าวและขอให้เกิดผลดีกับทุกคนเช่นกัน โดยยืนยันรัฐบาลมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ พร้อมขอให้ข้าราชการทุกคนตั้งใจปฏิบัติหน้าที่และร่วมกันทำความดีอันจะส่งผลให้ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าต่อไป

 

ในส่วนของรัฐบาลเป็นการขับเคลื่อนในเรื่องของนโยบายขณะที่กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ เป็นส่วนของการปฏิบัติและต้องมีการประเมินผลซึ่งต้องดำเนินการขับเคลื่อนไปพร้อมกันทั้งสองส่วน รวมไปถึงการขับเคลื่อนในระดับส่วนกลาง ภูมิภาคและพื้นที่หรือท้องถิ่นต้องดำเนินการให้สอดคล้องกัน โดยเฉพาะระดับพื้นที่ทุกกระทรวงต้องกำกับดูแลหน่วยงานของตนเองให้มีบุคลากรที่มีคุณภาพในการทำงานและมีการติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนขอให้มีการสร้างการรับรู้กับประชาชนในพื้นที่ได้เกิดความเข้าเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่รัฐบาลดำเนินการซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อให้ทุกภาคส่วนเกิดความร่วมมือในการที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่เป้าหมายที่กำหนด และขอบคุณทุกคนในการทำงานร่วมกันมาตลอดปี 2560 โดยหวังว่าในปี 2561 จะทำได้มากขึ้นเพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้เร็วยิ่งขึ้น

 

​         ขณะที่ ปลัดกระทรวงยุติธรรม ได้กล่าวแนะนำคณะผู้บริหาร รวมทั้งรายงานภารกิจสำคัญและสรุปผลงานสำคัญ พร้อมนำเสนอประเด็นที่ต้องการให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาสนับสนุน และขอความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ โดยเลขาธิการ ก.พ. กล่าวแนะนำหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ก่อนนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายและสั่งการต่อไป

 

สำหรับแนวทางการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมปลัดกระทรวงยุติธรรมได้เสนอให้ยึดหลักการบริหารงานที่สำคัญ คือ “อำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ขจัดความทุกข์ยาก สร้างประชาสามัคคี ส่งเสริมคนดีสู่สังคม เร่งรัดต้านภัยยาเสพติด เร่งรัดปราบทุจริตคอร์รัปชัน คุ้มครองสิทธิเสรีภาพคู่คุณธรรม สร้างกระบวนการยุติธรรมให้ยั่งยืน”

 

ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมพร้อมที่จะดำเนินงานตามกรอบเป้าหมาย ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม และความสงบสุขในสังคม โดยขจัดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงความยุติธรรม ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและคดีความ เน้นการทำงานเชิงรุกในการเข้าไปหาประชาชนสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบยุติธรรมชุมชนและยุติธรรมจังหวัด โดยจัดให้มีหน่วยบริการเคลื่อนที่ รวมทั้งการใช้กลไกของสื่อมวลชน เช่น รายการโทรทัศน์ วิทยุ ระบบ Call Center สื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงการจัดรายการประจำ ในเชิงหมอยุติธรรม เพื่อเป็นเครื่องมือสร้างการรับรู้การให้บริการประชาชนที่มีประสิทธิภาพของกระทรวงยุติธรรม ตลอดจนการรวบรวมข้อมูลของส่วนราชการเพื่อสร้างความเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และเร่งรัดการจัดทำการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้ เพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการบริหารจัดการ เช่น การป้องกันอาชญากรรม การพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด และการรวบรวมทรัพย์สินของบุคคลล้มละลาย

 

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนงานของกระทรวงยุติธรรม 6 ด้าน ประกอบด้วย 1) ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยลดระดับความรุนแรงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติด ให้ความสำคัญกับการป้องกันยาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ภาคประชาชนมุ่งเน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และทัศนคติที่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนในวัยเรียน สร้างเครือข่ายชุมชนที่สามารถลดปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด และร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ในการสกัดกั้นสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ให้เข้าไปยังแหล่งผลิตให้ลดลง รวมทั้งยึดนโยบายผู้เสพคือผู้ป่วย เพื่อลดการดำเนินคดีอาญาและส่งบุคคลเหล่านั้นกลับคืนสู่สังคมได้ดียิ่งขึ้น

 

2) สร้างสังคมปลอดภัยและความสงบสุขในสังคม มุ่งเน้นการลดการกระทำผิดซ้ำ และพัฒนาให้ ผู้ผ่านการแก้ไข ฟื้นฟู มีการศึกษา มีงานทำ มีรายได้ พึ่งตนเองได้ และกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้ภายหลังพ้นโทษ ให้สังคมเชื่อมั่นการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด

 

3) อำนวยความยุติธรรมเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรม และเป็นเครือข่ายในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น โดยสร้างการรับรู้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สิทธิและเสรีภาพ และพัฒนาประชาชนให้เป็นเครือข่ายในการปกป้องตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ และแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในชุมชน ผ่านกลไกคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมระดับจังหวัด (กพยจ.) สำนักงานยุติธรรมจังหวัด (สยจ.) และศูนย์ยุติธรรมชุมชน (ศยช.) ตลอดจนผลักดันวาระแห่งชาติด้านสิทธิมนุษยชนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม สนับสนุนการสร้างความเป็นธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และพัฒนาระบบงานยุติธรรมให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและสภาพปัญหาของพื้นที่ และให้เจ้าหน้าที่ของรัฐตระหนักในการปฏิบัติตามกฎหมายและเคารพหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัด

 

4) พัฒนากฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ให้ทันสมัยสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง และตรงกับความต้องการของประชาชน สนับสนุนการปฏิรูปในด้านต่าง ๆ ตามนโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะด้านตำรวจ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน โดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติงาน ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชน ซึ่งจะต้องทบทวนขั้นตอนการทำงาน ลดระยะเวลา และลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งภายในและภายนอกกระทรวงตามแนวทางวิเคราะห์ Big Data ของรัฐบาลที่กำหนดไว้

 

5) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมด้านความมั่นคง ให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นในการบังคับใช้กฎหมายโดยยึดหลักธรรมาภิบาล มุ่งเน้นจัดการคดีพิเศษสำคัญตามนโยบายรัฐบาลและที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน

 

6) เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ใช้หลักยุติธรรมและยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ เพื่อจัดการความขัดแย้ง จัดตั้งศูนย์ประสานงานและข้อมูลผู้ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง สร้างสภาวะที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันในสังคม และเสริมสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมเคารพกติกา ซึ่งการขับเคลื่อนงานของกระทรวงยุติธรรมดังกล่าวจะต้องทำงานในรูปแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน

 

———————–

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

เว็บไซต์รัฐบาลไทย http://www.thaigov.go.th

 

matemnews.com  5 มกราคม 2561