หลังเสร็จสิ้นการประชุมครม.ที่ทำเนียบรัฐบาล วันอังคาร 9 ม.ค.2561 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงมาจากตึกบัญชาการ 1 ช้ากว่าปกติจากทุกอังคารจะลงมาประมาณเที่ยง แล้วเมื่อยืนหน้าโพเดียมแล้ว พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า
“วันนี้ ผมประชุมเสร็จแล้วรับประทานอาหารร่วมกับ ครม. และได้หารือรายละเอียดเรื่องเบ็ดเตล็ดต่างๆกับบรรดารองนายกฯและรัฐมนตรี ก็ขอใช้เวลาแต่งหน้า แต่งตา แต่งตัวลงมาหน่อย เจอสื่อต้องยิ้มแย้มแจ่มใส ต้องส่องกระจกดูตัวเองก่อนว่า หน้าตาเป็นอย่างไรก่อนจะลงมา เพื่อให้มันดูผ่อนคลาย ไม่เช่นนั้นเครียดลงมาแล้วมาเจอสื่อ จะหงุดหงิดเกินไป เป็นนิสัยทหาร ผู้บังคับบัญชาวันจันทร์ก็ต้องทำหน้าหงุดหงิดไว้ก่อน เพราะลูกต้องจะได้เรียบร้อยทั้งสัปดาห์ ลูกน้องจะได้อยู่ในระเบียบ โมโหวันจันทร์แล้วโมโหวันพุธ อีกทีก็โมโหวันศุกร์ ก็จะได้เรียบร้อยในวันเสาร์-อาทิตย์ด้วย ผมจึงติดนิสัยมาจนถึงทุกวันนี้ต้องเป็นคนของประชาชนแล้ว ไม่ว่า จะเป็นอะไรก็ตาม หรือจะเป็นอะไรที่ทุกคนอย่างตั้งให้ ผมเป็นได้หมด วันนี้ผมทำหน้าที่เพื่อประชาชน และอยากจะบอกว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่มายืนอยู่ตรงนี้ จะมาด้วยวิธีใดก็ตาม ขอให้ดูเจตนารมณ์ความมุ่งมั่น ผมพยายามที่จะทำให้ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลง หากใครที่คิดมุ่งมั่นอย่างนั้นก็เหมาะสม ที่จะมาบริหารงานในอนาคตต่อไปที่ไม่ใช่ผม ผมพูดถึงการเมืองต่างๆในวันหน้าอย่าเอาผมไปเกี่ยวข้องอีกนะ เข้าใจหรือเปล่า ทุกคนที่เขามุ่งมั่น จะเข้ามาแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ก็ดูแลสนับสนุนเขาไป มีทั้งคนดี และคนไม่ดี คนที่ไม่ดี เราก็ต้องรู้ว่า เขาไม่ดีอย่างไร อาจจะดีกับบางกลุ่ม ไม่ดีกับบางกลุ่ม ทำนองนี้ ก็ไปเลือกกันให้ดีเป็นหน้าที่ของท่าน ไม่ใช่ของผม”
พูดมาถึงตอนนี้นกัข่าวถามแทรกขึ้นว่า มีความเห็นอย่างไรที่พรรคการเมืองกำลังขยับจะจับมือกันสกัดนายกรัฐมนตรีคนนอก พลเอกประยุทธ์ตอบว่า
“สกัดใครยังไม่รู้เลยใช่ไหม เห็นเป้าก็เป็นผมอย่างเดียว มันไม่มีคนอื่นเลยหรือ ไปดูคนอื่นหน่อยนะ ในส่วนของผมนั้นทุกอย่างเป็นไปตามตัวบทกฎหมาย วันหน้ายังไงอะไรเกิดขึ้นก็ยังไม่ทราบ ก็ขึ้นอยู่กับกฎหมายลูก เราอย่าไปกังวล รัฐธรรมนูญออกมาแล้ว จะต้องเป็นอย่างนั้น ต้องเป็นอย่างนี้ นี่เราไปคิดกันเองหรือเปล่า ก็ฝากช่วยคิดกันด้วยแล้วกัน อย่าทำให้ทุกอย่างมันเสียเวลาเลย เพราะวันนี้เราก็กำลังทำงานอยู่ การเมืองต้องเป็นเรื่องของการเมือง ก็ว่ากันไป
เมื่อถามต่อว่า หลังการเลือกตั้ง ถ้าไม่สามารถเลือกตัวนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งได้ จนต้องมีการเสนอชื่อนายกฯคนนอกเข้ามา การทำงานของนายกฯคนนอกจะราบรื่นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า
“ผมขอไม่ตอบดีกว่า จะราบรื่นหรือไม่ราบรื่น ไปรอดูวันหน้าก็แล้วกัน มันจะเกิดอะไรขึ้น ผมถึงบอกวันนี้ ขอให้มองสิ่งที่ผมกำลังทำวันนี้ มันควรจะต้องทำต่อกันหรือไม่ ขับเคลื่อนกันหรือไม่ แล้วใครจะทำก็ไปว่ากันมา เป็นคนอื่นก็ได้ ผมเสียอยู่อย่างตอบคำถามสั้นๆไม่เป็น ดังนั้นทุกคนต้องไปสรุปให้เข้าใจ ถ้าสื่อเข้าใจ ผมคิดว่าประชาชนเข้าใจแน่นอน เพราะสื่อได้นำประเด็นที่ผมพูดไปนำเสนอ ผมไม่อยากให้จับตรงนี้ผิด ตรงนั้นถูก ยืนยันว่า การทำงานของรัฐบาลมีการกลั่นกรองไม่ได้มาจากผมคนเดียว แต่มาจากคณะรัฐมนตรี ผู้รับผิดชอบโดยตรงทั้งหมด”
“ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีเยาวชนและครูมาหาผม เนื่องจากใกล้จะถึงวันครูแห่งชาติ คำขวัญวันครูก็มีอยู่แล้ว ศิษย์ดีก็ด้วยครู และจะต้องเรียกศรัทธา ดังนั้นอยากให้เราสร้างแรงศรัทธาจากคนไทยทั้งประเทศว่า เราจะนำประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศได้อย่างไร เดินหน้ายุทธศาสตร์ได้อย่างไร ถ้ายังคงขัดแย้งกันในเรื่องเดิมๆ ไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกัน มันก็คือ ปัญหา มันก็ไปไม่ได้ ดังนั้นผมคิดว่า ต้องมีคนดีหรือคนเก่งมากกว่าผมหรือเปล่า ในการที่จะมาทำตรงนี้ เราก็คาดหวังในวันข้างหน้า มันอยู่ด้วยกลไก หลายกลไก และด้วยกฎหมาย ซึ่งรัฐธรรมนูญจะเป็นกรอบใหญ่ ได้ให้กระทรวงศึกษาธิการ ไปสร้างการรับรู้ในโรงเรียนว่า มีกฎหมายประเภทใดบ้าง ที่เกี่ยวข้องกับประชาชน ที่จำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อไปบอกผู้ปกครองให้รับทราบ มีหลายกฎหมายที่บางคนไม่ทราบเลย บางคนทราบแต่เพียงรัฐธรรมนูญ ดังนั้นก็เลยทะเลาะกันเรื่องรัฐธรรมนูญ ในขณะที่กฎหมายลูกยังมีเยอะแยะ ผมให้สรุปมาแล้ว และมีคู่มือกฎหมายอีก 1 เล่ม ที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ ตัวเองจะทำประโยชน์อะไร อย่างไร อยู่ในกฎหมายอะไรบ้าง หน่วยงานใดรับผิดชอบ จะได้พัฒนากันเสียที ต้องสร้างการรับรู้ด้วยกฎหมาย”
matemnews.com 9 มกราคม 2561