“ช่วงนี้เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศที่มีประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนแบบไทยนิยม ที่คนไทยนิยมทำความดีความถูกต้องมีคุณธรรมจริยธรรม และนิยมประชาธิปไตยที่ไม่ทิ้งหลักประชาธิปไตยสากล ผมเองไม่เคยให้ยกเลิกอะไร แต่เวลาจากนี้สำคัญที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน และทำคุณประโยชน์ประเทศชาติ ขอบคุณทุกคนทำงานเต็มที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่หลายคนอาจจะเข้าใจและไม่เข้าใจ จึงขอให้อดทน เพราะผมเองพยายามทำเต็มที่หน้าที่ของตนเอง หากทุกคนทำเต็มที่จะผ่านอุปสรรคไปได้ทุกวันนี้รัฐบาลทำงานไม่มีคนรู้เรื่องว่ารัฐบาลทำอะไรไปบ้าง ฉะนั้น ผู้บริหารระดับสูงต้องช่วยกันด้วย จากนี้ไปจะมีการเตรียมวางระบบประเมินผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐ เพื่อลดการวิ่งขอตำแหน่ง เอาผลงานมาวิ่งไม่ใช่มาขอเข้าพบ ต่อไปนี้ต้องสร้างการรับรู้ให้ประชาชน แต่เดิมผู้บริหารระดับสูงจะเป็นคนประเมินผู้น้อย จากนี้ไปผู้น้อยและข้าราชการจะเป็นผู้ประเมินผู้บริหารระดับสูงในภาครัฐด้วย โดยมอบหมายให้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาในการวางระบบ น่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้ ซึ่งคนที่ได้ประโยชน์คือประชาชน ทั้งหมดนี้ทำเพื่อประชาชน ต้องการให้ข้าราชการคิดให้สอดคล้องกับการพิจารณาไปสู่ 4.0 ด้านทักษะ ทัศนคติ ผลทั้งหมดไปสู่ประชาชน ยุทธศาสตร์ชาติ แผนงานทั้งหลายไม่ใช่วางไว้เพื่อสืบทอดอำนาจทั้งสิ้น แต่เพื่อให้เกิดการกระจายความเจริญให้ประเทศชาติ หลุดพ้นจากกับดักประเทศยากจน กับดักรายได้ปานกลาง ประชาธิปไตยไทยนิยม คือต้องปรองดอง เอาเทคโนโลยีมาใช้ สร้างพัฒนาคนรุ่นใหม่ ให้เป็นทีมเดียวกัน คำว่า ไทยนิยม ประชารัฐยั่งยืน เป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อไปสู่ความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน ของชาติ ช่วงนี้จึงเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ไม่ใช่ที่พูดว่าจะสืบทอดอำนาจ ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็พที่วางไว้”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวข้างต้น ในการเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนานักบริหารระดับสูงเพื่อการบูรณาการการพัฒนาประเทศไทย 4.0 และการปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ผู้บริหารส่วนราชการกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ : One Country One Team” ที่อิมแพ็คเมืองทองธานี 22 มกราคม 2561
matemnews.com 22 มกราคม 2561