พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล หลังประชุม ครม.23 ม.ค.2561 ถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยว่า
“นับจากนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะประชาชนที่มีการรวมกลุ่มเข้าสู่กระบวนการ แม้จะยังมีปัญหาอยู่บ้าง โดยเราจะดูว่า ส่วนไหนที่ได้รับประโยชน์แล้ว และส่วนไหนที่ยังไม่ได้รับ จึงต้องมีแผนงานเพื่อแก้ไขความยากจน ส่วนเรื่องสภาวะเศรษฐกิจไทยและค่าเงินบาท ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย ติดตามอยู่ตลอดเวลาว่า จะมีแนวโน้มไปในทิศทางใด โดยต้องดูเศรษฐกิจโดยรอบประเทศและทั่วโลกประกอบกัน เพราะวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่าเงินกันทั่วโลก เกิดความผันผวนต่างๆ จึงต้องดูให้รัดกุม เพราะจะผลีผลามมากไม่ได้ มติที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ที่เสนอให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ ส่วนหนึ่งมาจากที่รัฐบาลไม่ได้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเลยนับตั้งแต่ 3 ปีที่ผ่านมา เพราะโดยปกติแล้วจะมีการขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แม้ตัวเลขการขึ้นค่าแรงจะไม่ถือว่าสูงมากนัก แต่ก็จะเป็นผลดี ก่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินในระบบมากขึ้น ขอให้พี่น้องแรงงานมีความเข้าใจด้วย ถ้าหากเราทำโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้มีความเข้มแข็งและมั่นคงได้ เช่น การลงทุน ก็จะทำให้รายได้ของประเทศมีมากขึ้น เก็บภาษีได้มากขึ้น ภาคธุรกิจมีความเข้มแข็ง จนนำไปสู่การปรับขึ้นค่าแรงในอนาคต เมื่อจะขึ้นค่าแรงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน มิเช่นนั้นจะเกิดการล่มสลาย เกิดปัญหาหนักกว่าเดิม ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันก่อนในระยะแรก การแก้ไขปัญหาราคายากตกต่ำ ขณะนี้ราคายางพาราสูงขึ้นมาเล็กน้อย โดยรัฐบาลพยายามเดินหน้าทุกมาตรการ แม้จะขึ้นได้ช้าเพราะติดหลายกลไกด้วยกัน วันนี้ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมสรุปตัวเลขการใช้ยางในประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม”
matemnews.com 23 มกราคม 2561