นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อบ่ายวันที่ 28 ม.ค.2561 ถึงการเลื่อนเลือกตั้ง ว่า
“เมื่อฟังคำอธิบายของนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีใบสั่ง และไม่อาจก้าวล่วงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไปอีก 90 วัน แล้วต้องยอมรับว่า มุขนี้สร้างอารมณ์ขันให้ประชาชนได้มากไม่แพ้คำอธิบายเรื่องนาฬิกา หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นความพยายามของฝ่ายผู้มีอำนาจที่จะกุมความได้เปรียบในการเลือกตั้ง ทั้งเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมืองที่จะตั้งขึ้นใหม่ รวมถึงการใช้ปีสุดท้ายของรัฐบาลลงพื้นที่และจัดสรรงบประมาณแบบปูพรมผ่านกลไกไทยนิยมเพื่อซื้อใจประชาชน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่แน่ใจว่าจะได้ผลตามที่ต้องการ เพราะการขยับโรดแมป กระทบความรู้สึกประชาชนในวงกว้าง และส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของผู้มีอำนาจ ถ้ามองในมุมของการเลือกตั้งคิดว่ายิ่งช้าประเทศยิ่งเสียโอกาส แต่สำหรับพรรคการเมืองเวลาที่เพิ่มขึ้นอีก 90 วัน คงไม่ทำให้พรรคเก่าพรรคใหม่ได้เปรียบกันเท่าไหร่ เพราะพรรคเก่ามีความพร้อมเบื้องต้นอยู่แล้ว ในขณะที่พรรคใหม่บางพรรคต่างหากที่ยิ่งแต่งตัวช้ากลับยิ่งเป็นการเปลือยกายต่อหน้าประชาชน เพราะสังคมกำลังจับตาดูอยู่ว่าพรรคไหนจะเป็นที่รวมของอดีต ส.ส.หรืออดีตรัฐมนตรี อย่างมีนัยสำคัญ และถ้าปรากฏแบบนั้นก็จะชัดทันทีว่าพรรคไหนเป็นนายหน้าสืบทอดอำนาจ เชื่อว่าในสนามเลือกตั้งนอกจากนโยบายเรื่องปากท้องซึ่งสำคัญมากแล้ว การต่อสู้ระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตยจะเป็นกระแสสูง ใครเดินแบกป้ายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เข้าหาประชาชนอย่าคิดว่าง่าย บทบาทของฝ่ายผู้มีอำนาจถ้าเอื้อฝ่ายไหนอาจเป็นกระดานหกให้คะแนนไหลไปอีกฝ่าย เข้าใจว่าที่ช้าจนต้องขยายเวลาส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะนักการเมืองที่ถูกทาบทามยังลังเลใจ ไม่มีใครกล้าประมาทประชาชน เพราะตัดสินใจผิดชีวิตเปลี่ยนได้ง่ายๆ”
matemnews.com 28 มกราคม 2561