พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงแก่ผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2561 ถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งทำความเข้าใจถึงเหตุผลการเลื่อนเลือกตั้ง ว่า
“นายกฯ บอกว่าวันนี้ ถ้าเราได้ติดตามดูจะพบว่ามีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้นแม้ไม่เยอะนัก แต่ให้ความสำคัญทุกภาคส่วนต้องทำความเข้าใจกับประชาชนทั้งกลุ่มผู้ที่เคลื่อนไหวและประชาชนทั่วไป “แน่นอนกลุ่มที่เคลื่อนไหวอาจทำความเข้าใจยากหน่อยไม่เป็นไร แต่ประชาชนที่อยู่รอบๆ บริเวณที่มีการชุมนุมต้องได้รับความเข้าใจว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นคนกำหนดให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไป โรดแมปยังคงเป็นโรดแมปเหมือนเดิม เพียงแต่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบต่อร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ว่าให้มีผลบังคับใช้เมื่อประกาศลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว 90 วัน พร้อมให้เหตุผลว่าเพราะอะไร ตรงนี้ต้องชี้แจงให้ประชาชนทราบ คสช. และรัฐบาล เป็นเพียงปลายทางที่ได้รับอานิสงส์อันนั้น ถ้าสมมุติว่าจำเป็นต้องเลื่อน ซึ่งวันนี้ก็ยังไม่ได้กำหนดว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ถ้าจำเป็นต้องเลื่อนออกไป นายกฯ ให้ไปทำความเข้าใจว่าเลื่อนออกไปในระยะที่กฎหมายกำหนดไว้ 90 วัน ไม่มีนัยสำคัญอะไร ที่ทำให้เห็นว่า รัฐบาลหรือ คสช.อยากอยู่เลย เพียงแต่ยังไม่คลิกในแง่ของกฎหมาย ความไม่พร้อมของส่วนต่างๆ ซึ่งสนช.ได้อธิบายให้สังคมฟังแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องราวเหล่านี้ต้องชี้แจงให้ประชาชนที่อยู่บริเวณการชุมนุมได้รับทราบ และเชื่อว่าสังคมวันนี้ฟังเหตุและฟังผล ทั้งจากกลุ่มผู้ชุมนุมและฝ่ายรัฐที่เกี่ยวข้อง สังคมวันนี้ชั่งใจได้ว่าอะไรคือ ความเหมาะสมที่เราจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยและเดินหน้าไปตามโรดแมป สำหรับการทำความเข้าใจ คือ เมื่อใดก็ตาม ที่มีการจัดกิจกรรมของกลุ่มที่พยายามทำในเรื่องนั้นๆ ก็ต้องทำให้ประชาชนเกิดการรับฟังข้อมูลจากทั้ง 2 ด้าน ฟังทั้งผู้ที่ชุมนุม และฟังทั้งรัฐบาล คสช. แต่ต้องไม่เกิดวิวาทะต่อกัน เราไม่ได้บอกว่าจะไม่เลือกตั้ง เราเลือกตั้งเพราะโรดแมปเป็นแบบนี้ ขยับไปแค่หน่อยเดียว มันจะมีอะไรกันนักกันหนา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้สังคมต้องได้รับฟัง เมื่อท่านบอกเป็นสังคมประชาธิปไตย ท่านก็ต้องยินดีให้คนอื่นให้ข้อมูลกับสังคมด้วยเหมือนกัน ฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องหาวิธีการทำความเข้าใจกับประชาชน แบบทันการณ์และทำอย่างเหมาะสม ทั้งตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง”
แม้ว่าประเด็นแถลงของพล.ท.สรสเริญคือเรื่องเลื่อนตั้ง แต่มาถึงตอนนี้นักข่าวก็ถามแทรกไปเรื่องนาฬิกาของพล.องประวิตร วงษ์สุวรรณ โดยถามว่า
การแชร์ภาพคลิปการชุมชุมและภาพพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เกี่ยวกับนาฬิกา ปลุกในโลกโซเชียลฯ ตรงนี้จะชี้แจงประชาชนอย่างไร พล.ท.สรรเสริญ ตอบว่า
“คสช. และรัฐบาลเห็นแล้ว แต่ไม่อยากไปวิจารณ์คลิปชุมนุมจริงไม่จริง แต่พูดกันด้วยเหตุและผล ใครฟังก็เข้าใจได้ว่าควรรับฟังและเชื่อในข้อมูลไหน ส่วนเรื่องของพล.อ.ประวิตร เป็นคนละกรณีกัน ได้ชี้แจงชัดเจนแล้วว่า ต้องชี้แจงต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ตอนนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช. ต้องรอ ป.ป.ช.จะว่าอย่างไร ถ้าถูกก็คือถูก ถ้าผิดกระบวนการต่อไป ก็ต้องไปดูกันว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้าเอาอารมณ์เป็นเครื่องตัดสินทุกอย่างในสังคมจะวุ่นวายไปหมด”
นักข่าวถามต่อว่า ฝ่ายความมั่นคงรายงานหรือไม่ว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองจะมีมากขึ้น พล.ท.สรรเสริญตอบว่า
“ผมไม่คิดว่าจะมีการเคลื่อนไหวมากขึ้น กลุ่มที่เคลื่อนไหวยังเป็นกลุ่มเดิมที่ทุกคนรับรู้ รับทราบ เพียงแต่เคลื่อนไหวบ่อยครั้งขึ้น แต่ด้วยเหตุผลอะไรไม่อยากไปวิพากษ์วิจารณ์ แต่เชื่อมั่นว่าสังคมที่บริโภคข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางสื่อต่างๆ วิเคราะห์ได้ว่าเกิดจากอะไร นายกฯให้แนวทางการทำงานกับเจ้าหน้าที่รัฐว่า ประเทศเรามีปัญหาเยอะแล้วกับการแก้ปัญหาของชาติ ทั้งความปรองดอง สามัคคี ปัญหาการบิน ปัญหาแรงงานต่างด้าว และเรื่องร้อยแปดพันเก้า อยากให้มีสมาธิในการทำงาน ส่วนประเด็นการเมืองเป็นเรื่องหนึ่งที่เราต้องคิด แต่ขอให้ คสช.ในฐานะที่ดูแลความมั่นคงเป็นผู้ให้ความสำคัญดีกว่า ถ้ารัฐบาลเอาทุกอย่างมาปนกัน ก็จะทำให้การขับเคลื่อนงานช้าออกไปอีก นายกฯพยายามให้ทุกคนเข้าใจว่าถ้านับตามโรดแมปเดิมคือ เดือนพ.ย.2561 แต่ถ้านับที่ทุกคนคาดหมายบวกไป 90วัน ก็จะเป็นเดือนก.พ.2562 นับย้อนหลังเวลาไม่นานยังมีเรื่องต่างๆ อีกเยอะที่เราต้องทำความเข้าใจและขับเคลื่อนอย่างการปฏิรูปทั้ง 11 คณะ อันนี้ต่างหากจะเป็นตัวกำหนดที่จะทำให้ประเทศเดินไปเทียบบ่าเทียบไหล่กับประเทศอื่นได้”
matemnews.com 14 กุมภาพันธ์ 2561
