เว็บไซต์รัฐบาลไทยรายงาน
นายกรัฐมนตรีสนับสนุนโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์)
วันนี้ (6 มีนาคม 2561) เวลา 08.00 น. ณ ห้องประชุมรอยัล ดุสิต บอลรูม เอ โรงแรมดุสิตธานี หัวหิน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 (สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์) โดยมี คณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มภาคกลางตอนล่าง 2 หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนภาคเอกชนเข้าร่วม
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวมอบนโยบายกับผู้เข้าร่วมประชุมตอนหนึ่งว่า ภาคกลางตอนล่าง 2 เป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญเป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาคและของประเทศ และเป็นจุดเชื่อมโยงการค้าที่สำคัญโดยเฉพาะด้านประมงกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยการลงพื้นที่ที่ผ่านมาได้รับฟังและทราบปัญหาความต้องการของประชาชน รวมถึงได้มีโอกาส เยี่ยมเยียนพบปะกับประชาชนและแรงงานคนไทยและแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้ ยังมีการลงพื้นที่ของรองนายกรัฐมนตรีเพื่อพบปะกับประชาชนอย่างทั่วถึงในการสร้างความรู้ความเข้าใจ โดยเฉพาะการทำความเข้าใจต่อโครงการไทยนิยม ยั่งยืน ซึ่งต่อไปการเสนอขอรับงบประมาณดำเนินโครงการของประชาชน ต้องดูตามความเหมาะสม คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ ให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดต่อการใช้งบประมาณ และให้สอดคล้องกับรายได้ของประเทศด้วย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีรับฟังข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจแและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง 2 จำนวน 4 ด้าน ดังนี้
- ด้านการบริหารจัดการน้ำ ประกอบด้วย โครงการบรรเทาอุทกภัยและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่เพชรบุรีตอนล่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเพชรบุรี ระยะที่ 3 ฝั่งซ้าย ตั้งแต่สะพานวัดจันทราวาส อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี ความยาว 250 เมตร โดยนายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้ทบทวนโครงการเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงกับแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของประเทศ
- ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย โครงการสนับสนุนการปลูกและบำรุงป่าชายเลนทดแทนให้แก่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โครงการฟื้นฟูป่าชายเลนงอกใหม่ ในท้องที่จังหวัดเพชรบุรี โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลอ่าวไทยฝั่งตะวันตก โครงการบริหารจัดการขยะจังหวัดสมุทรสาคร โดยนายกรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักประสานงานกับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
- ด้านการท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวชุมชน และ Long stay นายกรัฐมนตรีเห็นควรให้สร้างจุดแข็งด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่แล้วให้ขยายสู่กลุ่มจังหวัด สร้างจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวอย่างเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดต่อไป
- ด้านการค้า การลงทุน และการค้าชายแดน ประกอบด้วย โครงการนครแห่งครัวโลก โครงการยกระดับจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรเป็นจุดผ่านแดนถาวร นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการเรื่องโครงการนครแห่งครัวโลก โดยกำหนดความหมายให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการอย่างไร เป้าหมายคืออะไร รวมทั้งคำนึงถึงความต้องการของตลาดด้วย ส่วนจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรซึ่งเป็นจุดผ่านแดนถาวรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวประเทศเพื่อนบ้านต้องเห็นชอบด้วย จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ขณะนี้ยังมีปัญหาเรื่องการปักปันเขตแดนอยู่ จึงขอให้เป็นไปตามขั้นตอนต่อไป
ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าใจดีว่าทุกคนล้วนมีความหวังดีต่อพื้นที่ของตนเอง แต่ขอให้เข้าใจถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลด้วย ซึ่งการใช้จ่ายงบประมาณต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน และเพื่อพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป
กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก
matemnews.com 6 กุมภาพันธ์ 2561