“พิชัย นริพทะพันธุ์” ชี้ ไทยมีปัญหาใช้งบประมาณ ไม่สอดคล้องกับอนาคตประเทศ งบกลาโหมเพิ่มมากเกินถ่วงการพัฒนา รัฐบาลเลือกตั้งถูกหาว่าโกงกิน แต่รัฐบาลจากการปฏิวัติ กลับหนักกว่าแถมตรวจสอบไม่ได้
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย กล่าวในการบรรยายให้นักศึกษาปริญญาเอกของ มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยในหัวข้อ “ปัญหาการคลังและงบประมาณไทย” เมื่อบ่ายวันที่ 11 มีนาคม 2561 ว่าประเทศไทย แม้จะมีความมั่นคงทางการคลังสูง แต่ก็มีปัญหาในหลายด้าน โดยเฉพาะการที่ไทยได้ดุลการค้ามาหลายปีติดกันจนมีเงินทุนสำรองในปริมาณสูงถึง 2.13 แสนล้านเหรียญ แต่ไม่ได้มีการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมากเท่าที่ควรมาหลายปี เป็นการเสียโอกาสการพัฒนาของประเทศ รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งก็ถูกกีดกันไม่ให้ทำ ในขณะที่รัฐบาลจากการรัฐประหารควรเร่งดำเนินการแต่กลับทำไม่เป็น กว่าจะทำก็เกือบสิ้นสุดเวลาแล้ว ซึ่งทำให้ข้าราชการประจำไม่แน่ใจ กลัวโดนหาว่าร่วมกันทุจริต และอยากรอรัฐบาลจากการเลือกตั้งมากกว่า แถมรัฐบาลจากรัฐประหารระยะหลังนี้ กลับมีข่าวการทุจริตคอรัปชั่นกันอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องปล่อยให้คนจนโดนโกง ที่จับได้ว่ามีการโกงคนจนกันถึง 24 จังหวัดแล้ว แถมยังมีการโกงในกระทรวงศึกษาธิการ และการโกงในร้านธงฟ้ากว่า 20 ร้าน ซึ่งทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าการลงทุนขนาดใหญ่น่าจะมีการโกงกันสูงขึ้นไปอีกและก็ตรวจสอบไม่ได้ ทำให้ความนิยมยิ่งตกต่ำอย่างมาก นอกจากนี้การจัดสรรงบประมาณต้องเป็นไปแนวทางอนาคตของประเทศ แต่กลับไปเพิ่มงบกลาโหม และจัดซื้ออาวุธเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ ทำให้โอกาสการพัฒนาของประเทศลดลง ดังนั้นจึงควรพิจารณาจัดสรรงบให้ถูกแนวทางอนาคต เช่น ถ้าจะพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนก็ต้องทุ่มงบประมาณให้ถูกแนวทาง โดยขอเสนอให้อาเซียนมีกองกำลังร่วมคล้ายนาโต้ เพื่อร่วมมือในความมั่นคงของภูมิภาคและลดค่าใช่จ่ายของทุกประเทศในอาเซียนทั้งนี้ นอกจากนโยบายการคลังและงบประมาณแล้ว นโยบายการเงินของแบงค์ชาติทั้งเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ยก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกด้วย จะมายึดติดในแบบเดิมๆไม่ได้แล้ว จึงอยากให้พิจารณากัน และอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขการผูกขาดของธุรกิจที่มีไม่กี่บริษัทที่ได้ประโยชน์ในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เท่ากับเป็นการปิดกั้นโอกาสของประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้คนส่วนใหญ่ยังลำบากกันอย่างมาก
matemnews.com 11 มีนาคม 2561