บริษัท ศูนย์ฝึกอบรมทิพย จำกัด ร่วมกับศูนย์บริการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ดำเนินการจัดอบรม หลักสูตร Mini MBA จนสำเร็จลุร่วงไปได้ด้วยดี และได้มีการจัดพิธีมอบวุฒิบัตร Mini MBA ขึ้นในวันที่ 29 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ ห้องวิมานทิพย์ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง บริษัท ทิพยประภัย จำกัด (มหาชน) เข้ารับวุฒิบัตร
การนำเสนอโครงการศึกษาวิจัยในหลักสูตร Mini MBA จำนวน 7 กลุ่ม และได้รับคำแนะนำจากคณาจารย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
จากนั้น คุณสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการ บริษัท ทิพยประภัย จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในพิธี และมอบพระเกี้ยวที่ระลึกในนามของ บริษัท ทิพยประภัย จำกัด (มหาชน) และ รศ.จินตนา บุญบงการ คณะกรรมการโครงการ MINI MBA เป็นผู้มอบวุฒิบัตร
คุณสมใจนึก เองตระกูล กล่าวว่า “พวกเราทุกคนที่มาอยู่ ณ ที่นี้นั้นทุกคนเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งนั้น ท่านอาจารย์จะเห็นว่าพวกผมสนิทสนมกันขนาดไหน อยากจะเรียนขอบคุณท่านคณะอาจารย์ทุกคนที่ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาการต่างๆ ในระหว่างหกสิบชั่วโมงที่ผ่านมา ถือว่าเป็นมิติใหม่ของทิพยประกันภัยที่เราเริ่มโครงการแบบนี้ และผมคิดว่าต้องขอชมเชย ดร.สมพร แล้วก็ ดร.เปรมประชา ที่ได้จัดให้มีครอสนี้ เป็นเรื่องที่ผมคิดว่าจะทำให้องค์กรเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ในเรื่องที่ทุกคนได้ทราบมาเรื่องของวิทยากรระหว่างพวกเรากันเอง ผมคิดว่ามันจะช่วยพวกเราให้ประสิทธิภาพของบุคคลากรของเราได้ดีเป็นอย่างยิ่ง ต้องขอขอบคุณจริงๆ ในโครงการนี้
สำหรับพวกเราที่ได้รับการฝึกอบรม ผมคิดว่านอกจากเป็นประโยชน์ต่อองค์กรของเราแล้ว ผมยังคิดว่ายังเป็นประโยชน์ต่อตัวท่านเองเป็นอย่างยิ่ง ความรู้ต่างๆใหม่ๆซึ่งเราจะต้องนำไปสู้กับคนอื่นในยุคนี้ ในยุคที่เปลี่ยนกำลังเป็นจุดเปลี่ยนของโลกก็ว่าได้ แต่ของเมืองไทยมันกำลังก้าวไปสู่ดิจิทัล ก้าวไปสู่เรื่องของการเป็นเลิศ เรื่องเก่าๆดึงคนไปดึงคนมาอาจจะไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นอีกต่อไปอีกในอนาคต ผมคิดว่าความรู้ความสามารถใหม่ๆที่เราจะคิดขึ้นมา เพื่อต่อสู้กับการแข่งขันในยุคดิจิทัลนี้มันต้องทำมากกว่านั้น โดยเฉพาะเป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่เราจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพของตัวเราเองขึ้นมา นอกจากว่าเรื่องในเพิ่มประสิทธิภาพของตัวท่านเองมาในวันนี้ MINI MBA โดยเฉพาะของจุฬาฯเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมต่อตัวเองเป็นอย่างยิ่ง
ซึ่งคำว่า MINI MBA โดยจุฬาฯ มีความหมายมากที่จะไปต่อท้ายนามบัตรของท่าน ในสิ่งที่พวกเราได้เพิ่มประสิทธิภาพจากตรงนี้แล้วก็มีประกาศนียบัตรด้วย ต้องขอขอบคุณพวกเราที่ร่วมมือร่วมใจกันมาเรียนกันอย่างจริงๆจังๆ ให้พวกเราจงใช้ความรู้ความสามารถของท่านที่เรียนในครั้งนี้ นำมาใช้กับงานของเราเวทีการต่อสู้ระดับโลกที่รออยู่ตรงหน้า เรายังจะต้องไปอีกไกล แล้วก็การแข่งขันระดับสูงมันเริ่มมีเข้ามาอีกเยอะ ขณะนี้ก็ยังมีการใช้วิทยากรเก่าๆที่จะใช้เป็นเรื่องของการแข่งขันกันแบบสมัยดึกดำบรรพ์ก็ยังมาใช้อยู่ คิดว่ามันคงก็หายไป มันไม่ทันสำหรับยุคดิจิทัลนี้มันจะต้องทำมากกว่านี้อีกเยอะ ในเรื่องของการที่จะต้องเพิ่มพูนประสิทธิภาพพวกเราสู่โลกดิจิทัล เราคงไม่หยุดแค่นี้ ผมคิดว่าเราคงจะต้องไปต่อไป ก็อยากให้พวกเราร่วมมือร่วมใจกัน ทำให้องค์กรของพวกเราขับเคลื่อนไปข้างหน้าขอขอบคุณสำหรับท่านคณะอาจารย์และพวกเราทุกคนที่ได้ตั้งใจเรียนและนำสิ่งนี้ไปต่อท้ายนามบัตรของท่าน”
ด้าน รองศาสตร์จารย์ จินตนา บุญบงการ คณะกรรมการโครงการ MINI MBA ในนามของศูนย์วิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว แสดงความยินดีกับความสำเร็จในการฝึกอบรมหนักสูตร MINI MBA ว่า “ขณะนี้อาจารย์ขอรับพวกเราเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาจารย์มีความชื่นชมมากทีเดียว ที่ได้มีโอกาสเป็นผู้ดูแลโครงการนี้อาจารย์ดูแลอย่างใกล้ชิดทีเดียว พยายามมาทุกครั้งแล้วก็นั่งอยู่ข้างหลัง แล้วก็สังเกตพฤติกรรมของพวกเราถึงสามารถบอกได้ว่าบางคนไม่ขาดเลย บางคนก็ขาดนิดๆ ยิ่งกว่านั้นก็คือว่าเวลาอาจารย์นั่งอยู่ข้างหลังสังเกตว่ามีการพูดคุยกัน แต่การพูดคุยกันไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระเป็นการถกแถลงกันว่าสิ่งที่วิทยากรสอนนั้นพวกเรามีความรู้สึกเป็นประการใดหรือสามารถจะเอามาใช้ได้เป็นประการใด
พวกเราจะเห็นได้ว่าวิทยากรนั้นเป็นผู้ที่ทรงคุณวุฒิแล้วก็เป็นเด็กๆรุ่นใหม่แล้วก็รู้เรื่องของความเปลี่ยนแปลงอย่างมากทีเดียวในโลกนี้ เราให้ความสำคัญในเรื่องของการจัดฝึกอบรมของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอย่างมากทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะว่าจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกเป็นแห่งที่หนึ่ง เป็นที่เก่าแก่ที่สุดแล้วก็มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ขณะนี้เมื่อเปรียบเทียบไประดับโลกแล้ว เราก็พยายามที่จะก้าวขึ้นไปแต่เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่ต้องการจะเป็นหนึ่งร้อยให้ได้เราก็จะตกลงมาทุกทีเลยทีเดียว ทั้งนี้ก็เพราะว่าภาษาและเทคโนโลยีของเรายังไปไม่ถึง เรายังไม่สามารถที่จะดึงเอาส่วนต่างๆหรอวิธีการต่างๆนั้นเข้ามาจนกระทั่งทำให้ประเทศไทยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้นขึ้นไปเป็นที่หนึ่งได้ เพราะเรารู้ดีเลยทีเดียวว่าตลาดของการประกันนั้นยังมีอีกกว้างยังมีอีกเยอะมากและประเทศไทยนั้นยังก้าวเข้าไปเพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับสัดส่วนของอนาคตที่จะมีโอกาสเป็นไปได้ ดังนั้นโอกาสนี้คงจะเป็นโอกาสทองที่พวกเรานั้นจะเอาองค์ความรู้ต่างๆที่พวกเราได้จากคณะวิทยากรไปทำให้พวกเราสามารถที่จะพัฒนาให้บริษัทของเราเจริญก้าวหน้ายิ่งๆขึ้นไป
อาจารย์ฟังการเสนอโครงการมีความภาคภูมิใจอย่างมากพวกเราเก่งมากระยะเวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้น แล้วระยะเวลาที่ให้เสนอรายการนั้นเพียงนึดเดียวเราก็สามารถทำได้ดีมาก เพราะฉะนั้นจะเห็นได้เลยทีเดียวว่าอนาคตของประกันภัยของประเทศไทยคงจะมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นแล้วก็อนาคตของการประกันภัยอยู่ในมือของลูกศิษย์ของอาจารย์ที่นั่งอยู่ตรงนี้คือผู้บริหารทุกๆคนของบริษัททิพยประกันภัย”
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากสิ่งที่อาจารย์ทุกท่านได้เรียกว่า บรรจงที่จะสรรหาวิทยาการใหม่ๆมานำเสนอพวกเรา แล้วก็มีวิธีการในการถ่ายทอดที่เรียกว่าสุดยอดแห่งปฐพี ได้มีการสรุปในเรื่องราวหัวข้อต่างๆด้วยความตื้นตันใจความเป็นกันเอง อบรมมาหลายหลักสูตรทั้งเรียนจริงๆจังๆทั้งอบรมเพื่อที่จะหาเพื่อน แต่หลักสูตรนี้สิ่งที่เราได้เห็นอย่างชัดเจนผมเชื่อมั่นว่าพวกเราทุกคนเห็นพร้อมกันหมดนั้นคือว่า เราจะเห็นความมุ่งมั่นความตั้งใจทุกๆที่เวลาเราพูดกันเรื่องนี้เราจะพูดถึงนักศึกษาแต่ในหลักสูตรนี้เราจะเห็นความมุ่งมั่นความตั้งใจของคณาจารย์ทุกๆท่านในการที่จะหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้พวกเราได้รับรู้ให้พวกเราได้เรียนรู้ หลายๆเรื่องอาจจะเป็นเรื่องที่พวกเราอาจจะมีความคุ้นเคยอยู่แล้วบ้าง แต่เราลืมมองในมุมมองหรือวิถีของวิชาการ มันทำให้เราได้สามารถที่จะได้รับแนวความคิด ได้มีโอกาสถกแถลงได้มีโอกาสที่จะนำกรณีศึกษาต่างๆมาวิเคราะห์ และในที่สุดทำมาเป็นโครงการที่จะบอกได้และจะเกิดขึ้นจริงได้อย่างที่ผมเรียนให้ทราบตั้งแต่ตอนแรกว่า ทั้งเจ็ดโครงการนั้น ถ้าเรานำไปใช้และนำไปปรับประยุกต์ สามารถดำเนินงานได้จริง ผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ทิพยประกันภัยก็จะก้าวเป็นเป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นบริษัทประกันภัยชั้นนำในภูมิภาคอาเซียนนี้ได้อย่างไม่ยาก งั้นขอให้พวกเราทุกท่านนะครับ ขอบคุณคณาจารย์ทุกๆท่านที่กรุณาประสิทธิประสาทวิชาความรู้และเติมแต่งแนวคิดของพวกเราทุกๆคน จะขอบคุณเป็นคณาจารย์ก็กระไรอยู่ขออนุญาตที่จะเอ่ยชื่อ เอ่ยนามของอาจารย์ทุกๆท่าน เริ่มตั้งแต่ท่าน รองศาสตร์ตราจารย์ดร. พักตร์ภจง วัฒนสินธุ์ ท่านรองศาสตร์ตราจารย์ จินตนา บุญบงการ,ท่านรองศาสตร์ตราจารย์ บุญเสริม ภิมุขตนนท์,ท่านรองศาสตร์ตราจารย์ นพรัตน์ ภูมิพิศาสตร์ครับ ผู้ช่วยศาสตร์ตราจารย์ เมทินี วานิธกุลครับ ท่าน ดร.รภัสฎา แจ้งจากแก้ว ท่านผู้ช่วยศาสตร์ตราจารย์ดร. ธนวรรณ และรองศาสตร์ตราจารย์ ศาสนันท์ วิวัฒชาต จริงๆแล้วทางศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยนั้น ได้จัดคณาจารย์ที่เรียกว่าทรงคุณวุฒิและเป็นอาจารย์ผู้ทรงความรู้ระดับยอดของประเทศไทย มาให้กับพวกเรา หลายๆท่านอาจจะไม่ได้มาวันนี้ แต่ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่นี้หรือไม่แต่อยู่ในใจพวกเราตลอดเวลา”
