ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้มีการพัฒนาในด้านต่างๆอย่างก้าวกระโดดโดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศครั้งใหญ่แบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ทำให้เศรษฐกิจในปีที่แล้วขยายตัวสูงถึง 4% ในรอบสิบปี
ด้าน The Economist ซึ่งเป็นสื่อด้านเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเผยว่าประเทศไทย “กำลังจะกลายเป็นเหมือนญี่ปุ่น” ทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม เนื่องมาจากไทยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ต่ำมาก มีอัตราดอกเบี้ยสูงที่ยังคงที่ไว้ในระดับ 1.5% มาตั้งแต่ปี 2558 และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดติดอันดับต้นๆของโลก อีกทั้งไทยยังมีนโยบายเศรษฐกิจมหภาคที่เน้นเชิงรับซึ่งไม่ต่างจากญี่ปุ่นที่เคยทำผิดพลาดมาก่อน
อีกสิ่งหนึ่งที่ไทยกำลังจะเหมือนญี่ปุ่น คือ การเป็นสังคมผู้สูงอายุเร็วเกินไป โดยในอีก 4 ข้างหน้า ไทยจะมีประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี ถึง 14% หรือเกือบ 1 ใน 6 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งหมายความว่าประชากรในวัยแรงงานจะลดน้อยลงทำให้รัฐต้องแบกรับภาระมากขึ้นในการจัดหาสวัสดิการเพื่อมารองรับประชากรกลุ่มนี้
และสิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่า คือ ไทยกำลังจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ “ก่อนที่จะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว” พูดง่ายๆ คือ ประเทศยังไม่ทันพัฒนาก็เต็มไปด้วยผู้สูงอายุแล้ว แตกต่างจากญี่ปุ่นที่เป็นประเทศพัฒนาแล้วก่อนที่จะเข้าสู่สภาวะสังคมผู้สูงอายุ ซึ่งประเด็นนี้จะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตคนกลุ่มนี้ในอนาคตเพราะโครงสร้างพื้นฐานหลักรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆยังไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยเท่าไรนัก
จากประเด็นดังกล่าว สถานการณ์ของประเทศไทยจึงไม่ค่อยดีนัก ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐจะต้องเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่และเพิ่มการลงทุนในโครงการต่างๆเพื่อให้ประเทศมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และลดการพึ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้ของประเทศอยู่ในตอนนี้
รวมไปถึงพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อรองรับปัญหาการขาดแคลนแรงงานจากภาวะสังคมผู้สูงวัยและปัญหาการแย่งอาชีพจากแรงงานต่างด้าวกำลังหลั่งไหลเข้ามาอยู่ในตอนนี้
ข้อมูลโดย เพจ ThailandSkyline