นายพีระพล บุญชิณวงศ์ นายกสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน และประธานกรรมการ บริษัท อุบลแสงทอง โลจิสติกส์ จำกัด เชิญสื่อมวลชนไปรับฟังการแถลงข่าว ที่ทำการสมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อเช้าวันที่ 24 พ.ค.2561 โดยกล่าวว่า
ในส่วนของสมาคมรถขนส่งสินค้าภาคอีสาน ที่มีผู้ประกอบการ สมาชิกและรถบรรทุกสินค้ามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 30,000 คัน มีผู้ประกอบการกว่า 900 ราย เฉพาะที่อยู่ในสมาคมฯ และมีที่ไม่ได้ร่วมอีกกว่า 400 ราย รถบรรทุกอิสระอีกกว่า 500 คัน เมื่อราคาน้ำมันดีเซลขึ้นราคา ทะลุ 30 บาทต่อลิตร ในตอนนี้ เราก็จำเป็นที่จะต้องขอปรับขึ้นราคาค่าขนส่งสินค้าเพิ่ม 5% ก่อนในเบื้องต้น ความเป็นจริงเราต้องปรับ 10% จึงจะอยู่รอด แต่เราไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อนร้อน หรือไปซ้ำเติมประชาชน และถ้าขอเรียกร้องตรงนี้ไม่ได้ ก็จำเป็นต้องมีมาตรการกดดันตามมา คือ คงต้องมีการหยุดวิ่งให้บริการในบางส่วนประมาณครึ่งหนึ่งขอรถบรรทุกประเทศ เพราะยิ่งวิ่งก็ยิ่งขาดทุน ยืนยันว่าเราได้รับผลกระทบมาก เพราะต้นทุนสูง น้ำมันขึ้นราคาทุกอย่างต้องปรับขึ้นราคาตามเป็นลูกโซ่ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาทางสมาคมสหพันธ์ฯก็ได้คุยปรึกษาหารือกับทางสมาคมสหพันธ์ขนส่งสินค้าแห่งประเทศไทย ที่มีสมาชิกทั้งประเทศกว่า 1 แสนคัน เห็นพ้องตรงกันว่าขอปรับราคาขึ้น 5% แม้ว่าจะไม่เพียงพอก็ตาม แต่เราเห็นว่าถ้าขึ้น 10% ทันที จะทำให้ประชาชนเดือดร้อนมากกว่านี้ มาตรการที่เราขอไปถ้าภาครัฐไม่ดูแล หรือทาง รมว.คมนาคมไม่ช่วยเหลือผู้ประกอบการ ถ้าวิ่งรถแล้วขาดทุนเราก็จำเป็นจะต้องหยุดบริการวิ่งรถบรรทุก และหยุดบริการรับส่งสินค้าทุกประเภท เพราะถ้ายังขืนวิ่งต่อไปก็จะต้องมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น น้ำมันขึ้นราคาสินค้าอย่างอื่นเกี่ยวกับน้ำมันทุกประเภท จำพวกน้ำมันเหลวหรือน้ำมันหล่อลื่นทุกชนิด เช่น น้ำมันเครื่อง , น้ำมันเกียร์ , น้ำมันเฟืองทองท้าย , น้ำมันเบรก , จารบีอัดลูกหมาก , น้ำมันไฮโดรลิกส์ , น้ำมันก๊าซ แม้แต่น้ำมันพืช , ยางรถยนต์ เป็นต้น ก็ต้องขึ้นราคาตาม จริงๆเราไม่เคยปรับค่าบรรทุกมานานถึง 10 ปีแล้ว ตอนนี้เราต้องการให้ภาครัฐหามาตรการดูแลช่วยพยุงอย่างเร่งด่วนไม่ให้ดีเซลขึ้นมากไปกว่านี้ และช่วยหามาตรการชดเชยในส่วนกองทุนน้ำมัน หรือภาษีสรรพสามิตในการลดต้นทุนไม่ให้ราคาน้ำมันเกิน 30 บาทต่อลิตรให้ได้
มาตรหยุดวิ่งรถเป็นการการกดดันนั้น การหยุดรถก็ต้องมองว่าราคาน้ำมันจะขึ้นไปเท่าไหร่ก่อน ถ้าขึ้นมากก็ต้องหยุดวิ่งรถมาก เมื่อต้นทุนสูงเราขาดทุนมากเราก็อยู่ไม่ได้ ในส่วนของสมาคมภาคอีสานกว่า 30,000 คัน หยุดวิ่งครึ่งหนึ่ง 15,000 คันก่อน ก็น่าจะมีผลกระทบวงกว้างแน่นอน แต่ตนขอยืนยันว่าจะไม่มีการปิดถนนเด็ดขาดอย่างแน่นอน ตนยืนยันว่าจะไม่ให้สังคมหรือประชาชนเดือดร้อน ก่อนหน้านี้สมาคมสหพันธ์แห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือข้อเรียกร้องให้กับ รมว.คมนาคมไปแล้ว และอีก 15 วันนับจากนี้ จะมีการยื่นใหม่เข้าไปอีกเป็นรอบที่ 2 และจะดูว่าจะตอบรับอย่างไร ถ้าไม่เห็นผลอย่างไรประมาณหลังวันที่ 10 มิถุนายน 2561 มาตรการกดันจะดีเดย์พร้อมกันทั่วประเทศ เช่น หยุดวิ่งรถจอดรถในจุดต่างๆของแต่ละจังหวัด โดยยืนยันว่าไม่ไม่ให้ส่งผลกระทบหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนเด็ดขาด ไม่มีการปิดถนน หรือเคลื่อนขบวนรถรถบรรทุกเจ้ากรุงเทพฯ หรือลานพระบรมรูปทรงม้าอย่างแน่นอน เราจะไม่ทำเช่นนั้น แต่อาจจะจอดรถข้างถนนในจุดที่ไม่เกิดอันตรายบนท้องถนน ผมยืนยันว่าเราเดือดร้อนจริงๆ ไม่ได้ขู่
ตอนนี้เรามี 12 สมาคมทั่วประเทศ ที่รวมเป็นสหพันธ์การขนส่งทางบก แห่งประเทศไทย จะร่วมมือกับสหพันธ์ผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย และทาง “เจ๊เกียว” ดร.สุจินดา เชิดชัย นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารแห่งประเทศไทย และรวมทุกสมาคมฯจะไปพบ รมว.คมนาคม ไม่เกินวันที่ 10 มิถุนายน 2561ไปยื่นข้อเรียกร้องอีกรอบ จากนั้นมาตรการที่ว่า ก็ดีเดย์เลย รถโดยสารหยุดวิ่ง พร้อมกันกับรถบรรทุกสินค้าหยุดวิ่งบริการ ตนคิดว่าแค่นี้ก็อัมพาตแล้ว การจอดรถที่ไม่ได้ทำงานก็จอดจังหวัดใครจังหวัดมัน บ้านใครบ้านมัน อาจจะมีการจอดข้างถนนเป็นแถวยาวบริเวณหน้าสมาคมฯ สมาพันธ์ เพื่อรวมพลังกันส่วนหนึ่ง เพื่อให้ภาครัฐเห็นว่าเราไม่มีงาน เราก็จอดให้เขาเห็นรถ แต่ต้องไม่เกะกะกรีดขวางการจราจร ไม่ทำความเดือดร้อนให้ประชาชนที่สัญจร บางสมาคมจะนำรถบรรทุกเข้ากรุงเทพฯ ผมเรียนว่าสมาคมฯอีสานเราไม่พร้อม เพราะประชาชนจะเดือดร้อน เอาแค่เฉพาะรถราในกรุงเทพฯก็ติดขัดมากมาย เราเองจะไม่นำเข้าไปเป็นการสร้างปัญหาให้เขาแน่นอน โดยเฉพาะพระบรมรูปทรงม้าเอาแค่รถบรรทุก 10 พ่วงเข้ากรุงเทพฯก็อัมพาตไปหมดแล้ว แต่ถ้าจะเข้าไปก็ต้องเป็น 100-200 คันอยู่แล้ว
matemnews.com
24 พฤษภาคม 2561