“พิชัย” เสนอ “บิ๊กตู่” ชี้แจงโดยตรงกับไอเอ็มดี ย้ำ มั่นใจ ข้อมูลที่บอกถูกต้องหมดไม่ห่วงเข้าตัว เย้ย ผลโหวตไม่สนับสนุนในเพจเชียร์บิ๊กตู่
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน รัฐบาลพรรคเพื่อไทย แถลงแก่ผู้สื่อข่าวเมื่อเช้าวันที่ 27 พ.ค.2561 ว่า ตามที่ สถาบัน IMD ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลง 3 อันดับ ตกมาอยู่ที่ 30 และ ตนได้นำเอาข้อมูลของ ไอเอ็มดี ที่ให้เหตุผลในการจัดอันดับไทยลดลงหนักว่า เป็นเพราะปัญหาความไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล และ การขาดดุลงบประมาณมาก พร้อมทั้งเตือนว่าไทยมีการรับรู้และปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของโลกต่ำ
แต่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ออกมาตอบโต้ตนด้วยเหตุผลแบบงงๆเหมือนแก้ตัวนั้น ก็อยากให้พลเอกประยุทธ์ได้ส่งข้อมูลตอบโต้นี้ให้กับสถาบันไอเอ็มดีโดยตรงเลย เพราะตนนำข้อมูลมาจากไอเอ็มดีที่ปรับลดอันดับไทย ซึ่งถ้าหากทำให้ไอเอ็มดีเชื่อได้ เขาก็อาจจะปรับอันดับคืนให้
และอยากให้พลเอกประยุทธ์ได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้จริงอย่างที่บอก เพราะแม้รัฐบาลจะใช้งบประมาณขาดดุลมาก แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ทราบเลยว่ารัฐบาลได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอะไรตลอด 4 ปีมานี้ จนเป็นสาเหตุให้ ไอเอ็มดีท้วงติงเรื่องปัญหาโครงสร้างพื้นฐานของไทยที่ไม่พัฒนานี้ และหลายคนยังรอนั่งรถไฟความเร็วสูงอยู่
ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณพลเอกประยุทธ์ที่เตือนให้ตนระวังข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆว่าจะเข้าตัว จึงขอยืนยันว่าทุกข้อมูลและทุกคำแนะนำเป็นข้อมูลจริง ไม่ได้มีการบิดเบือนและสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งตนได้ระมัดระวังมาโดยตลอด
การที่ตนเตือนให้พลเอกประยุทธ์อ่านหนังสือเศรษฐกิจมากๆ ส่วนหนึ่งก็เพื่อจะให้พลเอกประยุทธ์ สามารถวิเคราะห์เศรษฐกิจได้เองโดยไม่ต้องพึ่งคนอื่นที่อาจจะรายงานเพื่อเอาใจเท่านั้น
อย่างเรื่องการเจริญเติบโตของไทยที่ต่ำสุดในอาเซียนตลอด 4 ปี ก็เป็นข้อมูลของเวิรลด์แบงค์ และเอดีบี ที่ยืนยันข้อมูลของตน และการเจริญเติบโตที่ต่ำมาตลอด และเพิ่งจะมาดีขึ้นก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะเฉลี่ย 4 ปี ไทยโตเฉลี่ยเพียงปีละ 2% กว่าเท่านั้น ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านโตมากกว่าไทยเป็นเท่าๆ และ ปีนี้ถึงจะโตได้ 4 % กว่าก็ยังต่ำสุดในอาเซียนเช่นกัน ซึ่งถ้าความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงก็อาจจะแปลว่าไทยคงจะโตกว่านี้ไม่ได้มากแล้ว
อีกทั้งยังมีปัญหาการกระจายรายได้ที่คนส่วนใหญ่ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งหากทีมเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์ไม่เห็นด้วยกับข้อมูลของตน ก็ขอให้ออกมาชี้แจงพร้อมกันกับตนได้ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชน
ทั้งนี้ เรื่องที่พลเอกประยุทธ์ควรพิจารณาคือ ผลโหวตในเพจที่เชียร์พลเอกประยุทธ์แต่กลับมีคนโหวตไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ถึง 94% โดยมีคนร่วมโหวตถึงกว่า 3.3 แสนคน หลังจากที่ลบผลโหวตเก่าที่มีคนโหวตไม่สนับสนุน 90% โดยมีคนร่วมโหวตกว่าครึ่งล้านคน น่าจะเป็นเสียงสะท้อนถึงผลงานและประสิทธิภาพของรัฐบาลได้ในระดับหนึ่ง
คลิกอ่านข่าวของคมชัดลึก
เพจหนุนประยุทธ์ตั้งPOLLใหม่ หัวข้อเดิม ผ่าน9ชม.คนไล่เยอะกว่า
matemnews.com
27 พฤษภาคม 2561