“วันนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานถึงสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศให้ฟัง อย่าบอกว่า รัฐบาลดูแต่ตัวเลข ฟังแต่ข้าราชการ เพราะหากเราไม่มีตัวเลข ไม่มีการประเมินเหล่านี้ แล้วจะบริหารได้อย่างไร ต้องบริหาร 2 ทาง ทั้งหลักวิชาการและเศรษฐศาสตร์ ข้อมูลทางข้าราชการ และการรับฟังความเดือดร้อนจากประชาชน เอาทั้ง 2 ส่วนมาประมวลวิเคราะห์ แล้วหามาตรการไปแก้ไขปัญหา สิ่งที่รายงานวันนี้ การส่งออกขยายตัวร้อยละ 12.3 เดือนเม.ย. ขยายตัวถึง 7.1 ซึ่งดีขึ้นพอสมควร ขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ทั้งในส่วนของรถยนต์ อุปกรณ์ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ส่วนประกอบเม็ดพลาสติก น้ำมันสำเร็จรูป การส่งออกสินค้าเกษตร อุตสาหกรรมเกษตร หลายรายการก็กลับมาขยายตัวที่สูงขึ้น อะไรที่ดีๆไม่บอกให้ผม เอาแต่ที่เสียๆมา แต่ที่เสียก็ต้องแก้ ไม่ใช่มีแต่ดีอย่างเดียว ไอ้ที่เสียก็เป็นธรรมดา เพราะตลาดโลกเป็นอย่างนี้ก็ต้องแก้ปัญหาให้ได้ อย่างเช่นน้ำมันก็ใช้กองทุนน้ำมัน บางรัฐบาลบอกจะยกเลิกกองทุนน้ำมัน หากวันนี้ยกเลิกแล้วจะทำอย่างไร ตอนที่ผมเข้ามากองทุนน้ำมันก็ติดลบอยู่ วันนี้จะมีใช้อยู่หรือเปล่าก็ยังไม่รู้ หากมีการยกเลิกกองทุนน้ำมัน หากผมไม่สะสมให้ถึงวันนี้ จะมีเงินมาแก้ไขปัญหาตรงนี้ไหม ราคาก๊าซ ราคาน้ำมันก็ขออย่าให้บิดเบือนกันต่อไป วันนี้ก็อยู่ในราคาที่ปกติ เพราะรัฐบาลเข้าไปดูแลราคาขาย ดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร แต่ยังมีคนบอกว่า ยังแพงอยู่ มันจะแพงได้อย่างไร ก็เข้าไปพยุงราคาให้แล้ว กองทุนน้ำมันอยู่ที่ 31,056 ล้านบาท เขาก็ประมาณการณ์ไว้แล้ว ถ้าใช้ไม่มากก็พอพยุงได้ไปถึงสิ้นปี ใครที่เคยบอกว่า จะยกเลิกกองทุนน้ำมันไปดูว่า นายกฯคนไหนที่เคยพูดไว้ ผมไม่รู้ถ้าวันนี้เลิกไป จะทำอย่างไร มันก็ต้องมีมาตรการ เราไม่ได้ไปใช้อย่างอื่น วันนี้สถานการณ์โลกทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่า มีปัญหาจากประเทศมหาอำนาจหลายประเทศ รวมถึงสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีต้องไปติดตามกันต่อไป เพราะมีความเกี่ยวพันกับประเทศอื่นๆ เพราะเราอยู่ในโลกใบเดียวกัน ประเทศไทยก็เป็นส่วนหนึ่งในโลกใบนี้ เราก็ต้องทำให้ภายในประเทศสงบสุข มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น ผมให้ความสำคัญกับเป็นเศรษฐกิจระดับล่าง อยากให้ทุกคนร่วมมือกัน คนจน คนที่มีรายได้น้อย ต้องพัฒนาตัวเองให้ได้ อย่างไรก็ต้องไปดูช่องทางที่รัฐบาลทำออกไป สัปดาห์ที่แล้วที่ผมชี้แจงไปและเขียนกลอนในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ผมมีความเป็นห่วงใยจริงๆ แต่ก็ไม่ค่อยฟังกัน คิดว่า ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง มันเกี่ยวทั้งหมด แม้กระทั่งการขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบใหม่ คนรอบเก่าก็มาลงทะเบียนมากขึ้น ผมถามว่า ทำไมรอบแรกไม่ลงกัน เพราะไม่สนใจคิดว่า ไม่ได้อะไร พอเขาได้ขึ้นมาก็ร้องเรียนว่า ไม่ได้ขึ้นทะเบียน ตรงนี้คือสิ่งใหม่ๆที่รัฐบาลทำมา ก็ขอให้สื่อช่วยทำความเข้าใจด้วยว่า เราจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปอย่างไร เรื่องเรตติ้งต่างๆก็มีความสำคัญ บางอย่างมีขึ้นมีลง ต้องไปดูไส้ในว่า มีอะไรเกี่ยวข้องบ้าง บางอย่างก็ดีขึ้น บางอย่างเท่าเดิม บางอย่างเราก็พัฒนาช้า เพราะเราอาจเริ่มต้นช้าไป เพราะมีการตั้งกติกาใหม่ขึ้นมา ทำให้คะแนนถ่วงลง ผมไม่ได้แก้ตัวตรงนี้ แต่ขอให้ระมัดระวังหน่อย ใครที่มาพูดว่า เศรษฐกิจเพิ่มแค่ 2 เปอร์เซ็นต์ ระวังหน่อยเป็นการบิดเบือน ผิดกฎหมาย ถ้าไม่ใช่ล่ะ ก็เตือนทุกคนนะ อย่ามาหาว่าผมไปรังแกใคร ผมพูดไว้ก่อนตรงนี้ การโพสต์ต่างๆออกมาแล้ว อ้างว่า ไม่รู้ อ้างว่า โพสต์ต่อจากคนอื่น กฎหมายเขียนไว้ทุกตัวแล้วใครทำก็ผิดหมด ผมทำผมก็ผิด ถ้าผมไปบิดเบือน ถ้าผมโกหกท่านว่า มันขึ้นเท่านี้ ทั้งที่จริงขึ้นเพียงเท่านี้ ผมก็ผิด ผมทำไม่ได้ เขาก็ต้องเคารพกติกาตัวนี้”
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการแถลงข่าวหลังประชุมครม. ที่ทำเนียบรัฐบาล 28 พ.ค.2561
matemnews.com
28 พฤษภาคม 2561