พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(รองโฆษก ตร.) แถลงแก่ผู้สื่อข่าวที่ สตช.เมื่อเช้าวันที่ 2 มิ.ย.2561 กรณี “สาวชัยภูมิ แจ้งความถูกชายแต่งกายคล้ายตำรวจ เรียกรับเงินเมาแล้วขับ-หอมแก้มบนโรงพัก ยื่นข้อเสนอเรียกเงิน 2 หมื่นเจ้าตัวยอมจ่าย ก่อนถูกลวนลาม เร่งตรวจวงจรปิดหาตัว”
สตช. ได้รับรายงานจาก สภ.เมืองพัทยา ว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ค.25 61 เวลาประมาณ 03.30 น. ผู้แจ้งได้ขับขี่รถยนต์เก๋ง และเกิดเฉี่ยวรถคู่กรณีจอดอยู่ข้างทาง พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุ และออกตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบผู้แจ้งและรถยนต์คู่กรณีอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงได้เชิญตัวผู้แจ้งและญาติคู่กรณีมาที่ สภ.เมืองพัทยา เพื่อสอบสอน จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ให้คู่กรณีไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการทดสอบแอลกอฮอล์ของคู่กรณี และแจ้งว่าผลตรวจของผู้แจ้ง มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวผู้แจ้งเข้าไว้ในห้องควบคุมตัว จากนั้นได้มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณหน้าห้องควบคุม มาเรียกรับเงินจากผู้แจ้ง จำนวน 20,000 บาท เพื่อมิให้ถูกดำเนินคดี และยังได้กอดและหอมแก้มผู้แจ้งด้วย ผู้แจ้งจึงให้บัตรเอทีเอ็ม พร้อมรหัส แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปกดเงินจำนวน 20,000 บาท และมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวผู้แจ้งออกมา ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหาย และรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว โดย ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้มีคำสั่ง สภ.เมืองพัทยา ลงวันที่ 1 มิ.ย. 2561 แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น และทำการตรวจสอบด้วยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจรายใดมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ตำรวจ 1 นาย ตามที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้เรียกรับผลประโยชน์ ให้ออกจากราชการไว้ก่อนระหว่างถูกตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อให้ปรากฏข้อเท็จจริง และสามารถตอบคำถามสังคมได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดมีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์ และกระทำความผิด ตามที่ถูกกล่าวหาจริงหรือไม่
matemnews.com
2 มิถุนายน 2561