นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ไปที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.2561 ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.
ขอให้ออกคำสั่งให้นายดอน ปรมัถต์วินัย รมว.ต่างประเทศ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจาก กกต. ลงมติว่า การถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ของนายดอนไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กรณีที่กกต.ลงมติดังกล่าว ทำให้นายดอนเข้าข่ายขาดคุณสมบัติเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ 60 ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯก็ยอมรับว่า ถ้า กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ศาลอาจสั่งให้นายดอนหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ ส่วนตนมองว่า นายดอนสามารถหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที และไม่ควรดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศอีกต่อไป วันนี้มีเสียงเรียกร้องขอให้นายดอนหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่พล.อ.ประยุทธ์กลับทำเพียงโบกไม้ โบกมือ และไม่ตอบคำถามสื่อ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย การถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของรัฐมนตรีทำไม่ได้ รัฐบาลและ ครม. ก็ทราบ ผมอยากถามพล.อ.ประยุทธ์และ ครม. ว่า ท่านจะยืนอยู่อย่างไร ทำไมไม่ปฏิบัติเหมือนรัฐมนตรี 3 คนในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกฯ ที่ได้แก่ นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีต รมว.มหาดไทย นายสิทธิชัย โภไคยอุดม อดีตรมว.ไอซีที นางอรนุช โอสถานนท์ รมช.พาณิชย์ ที่ป.ป.ช.ในขณะนั้นตรวจพบว่า ถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ก็แสดงสปิริตลาออก ส่วนที่นายดอน บอกว่า ผ่านมา 37 ปีไม่เคยแตะต้องเรื่องหุ้น ตนว่าไม่ใช่ เพราะล่าสุดทราบว่า มีการโอนหุ้นให้เหลือแค่ 4 เปอร์เซ็นต์ มองอย่างไรก็ไม่ทันการ จึงขอเรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเพื่อความสง่างาม และขอให้ยึดถือการกระทำสมัยพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นหลัก
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกนักข่าวกุ้มรุมระหว่างเดินจะขึ้นตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมประชุมครม.ในตอนเช้า 5 มิ.ย.2561 แล้วให้สัมภาษณ์นักข่าว ว่า
“ถ้าตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ก็คงไม่มาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันนี้ และคงไม่เดินมาในช่องทางนี้ ที่เคยมาประจำ ผมยังไม่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าวกับนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนได้คุยกันในหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น”
นักข่าวถามย้ำว่า ยืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ต่อใช่หรือไม่ นายดอน ยิ้มหวานตอบ ว่า
“คำตอบอยู่ในใบหน้านี้แล้ว ไม่รู้สึกกดดัน เพราะกระแสกดดัน เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างสรุปกัน เรื่องนี้ก็ค่อยว่ากันไป ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ต้องรอให้มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน เราตอบได้เพียงตามกระแสข่าว แรงกดดันที่ใครต่อใครพูดถึง จะตีความว่า เป็นการกดดันหรือไม่ก็อยู่ที่เรา จะถือว่า เป็นการกดดันหรือทักทาย หรือการแสดงความห่วงใย สนใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ที่ว่า เราจะคิดเห็นอย่างไร ขณะนี้ผมก็อย่างที่ว่า คำตอบอยู่บนใบหน้าแล้ว ยืนยันว่า ไม่กดดัน เราก็ทำงานของเราไป อย่างไรก็ตามเรื่องหุ้นนั้นภรรยาได้เคลียร์เรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นนี้เป็นมรดกของครอบครัวภรรยา”
นักข่าวถามต่อ ขณะนี้ภรรยาท่านถือหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ นายดอน ตอบว่า
“ถือน้อยว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของลูกชายผมไม่รู้เรื่อง เพราะจริงๆแล้วผมไม่เคยรู้เลยว่าภารยามีหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ อะไรบ้าง เพราะเขารับมรดกมาเป็นเวลากว่า 37 ปีแล้ว เป็นของครอบครัว แต่เมื่อกฎหมายบอกว่า ต้องไม่ถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องดำเนินการไป”
มาถึงช่วงนี้นายดอน ยิ้มและชูนิ้วโป้งให้นักข่าว
Matemnews.com
5 มิถุนายน 2561