พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 24 มิ.ย.2561 ว่า การเยือนสหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศส เป็นการเปิดศักราชใหม่ เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมานั้นเราอาจจะมีความใกล้ชิดกันน้อยเกินไป โดยเฉพาะในช่องทางของรัฐบาลและการเมือง เพราะที่ผ่านมาเป็นเพียงความร่วมมือทางด้านเอกชน การค้า การลงทุนระหว่างกัน วันนี้รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะเดินหน้าตรงนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในปัจจุบันและสถานการณ์โลก และเพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้ามากนัก จึงจำเป็นที่จะต้องหาพันธมิตรที่เรียกว่าหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นประเทศใด แต่ต้องดำเนินนโยบายให้สมดุลในทุกมิติกับทุกประเทศ และเราก็เห็นว่ากลุ่มในประเทศยุโรปมีศักยภาพสูง โดย 2 ประเทศแรกที่มาพบปะ คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ในการหารือกับประเทศอังกฤษก็ได้พูดถึงความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนาน 400 ปี และผลประโยชน์ร่วมกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ และการลงทุนของไทยในอีอีซีและพื้นที่ต่างๆรวมถึงมาตรการจูงใจ เราต้องสร้างหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ซึ่งมีหลายมิติ ไม่ใช่แค่การเมือง แต่จะต้องดูถึงความมั่นคงทางภูมิภาค ความร่วมมือระหว่างกันในด้านก่อการร้าย การศึกษา สาธารณสุข การพัฒนา โดยเฉพาะยิ่งถ้าหากมีความแตกต่างมากเราก็ยิ่งต้องการการสนับสนุนซึ่งกันและกัน เราก็ต้องการจากเขาเยอะ ในเรื่องของเทคโนโลยี นวัตกรรม หลายอย่างเราต้องใช้ประสบการณ์ของเขามาช่วย โดยสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นหลังการพูดคุยไปแล้ว
นักข่าวถามถึงท่าทีของ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า
“ท่านเป็นคนน่ารักนะ คำว่าน่ารัก คือ ท่านมีความเข้าใจความเป็นไทย มีการเตรียมการพอสมควรที่จะเรียนรู้ว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร ถึงไหนอย่างไร ส่วนเรื่องข้อจำกัดทางการเมืองท่านไม่ได้เป็นคนพูดก่อน แต่ผมเล่าให้ท่านฟังเอง ท่านไม่ได้กดดันอะไรผม แต่ขอให้ดำเนินการตามโรดแม็พของเรา ก็ดีไม่มีอะไร”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้ในโซเชียลมีเดีย มีการเผยแพร่ข่าวความคิดเห็นของนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในไทย ระบุว่าการเดินทางมาของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อพบปะหารือกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะมีข้อตกลงเปิดทางให้คสช.บริหารประเทศอีกสมัย พลเอกประยุทธ์ตอบว่า
“ผมจะพบกับใครได้นอกจากนักธุรกิจไทย ในฐานะที่จะต้องมาขับเคลื่อนให้ และพบกับข้าราชการไทยของกระทรวงการต่างประเทศ ผมไม่มีโอกาสที่จะพบคนอื่นเลย ไม่เคยนัดพบใครทั้งสิ้น ในการทำงานตั้งแต่ผมเป็นผู้บัญชาการทหารบกก็ไม่เคยนัดพบใคร มาทำงานเสร็จก็กลับบ้าน กลับไปทำงานที่ไทย ฉะนั้นอย่ามากังวลกับผม ถึงแม้จะอยากพบผมก็ไม่ให้พบอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจ ผมมาทำหน้าที่ ไม่ได้มาพบเป็นการส่วนตัว”
พลเอกประยุทธ์กล่าวต่อไป ถึงความพร้อมในการพบหารือกับ นายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ว่า
“ผมมีความพร้อม เพราะผมก็ได้เตรียมการและศึกษาข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศและจากเอกอัครราชทูตประจำฝรั่งเศส ส่วนการหารือกับนักธุรกิจไทยมีการหารือในทุกมิติ โดยได้มอบให้เอกชนและส่วนราชการเป็นผู้ดำเนินการ ว่าจะประสานงานกันได้อย่างไร ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ดี เนื่องจากฝรั่งเศสก็ชนะในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบแบ่งกลุ่มล่าสุด เชื่อว่าการพูดคุยจะเป็นไปด้วยดี”
คลิกอ่านข่าว คาดดอดพบ
matemnews.com
24 มิถุนายน 2561
