พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กลับจากกรุงปารีส ฝรั่งเศส ถึงสนามบิน บน. 6 กองทัพอากาศ ดอนเมืองเมื่อเวลาประมาณ 12.40 น.วันที่ 26 มิ.ย.2561 และแถลงข่าวแก่สื่อมวลชนในห้องรับรองสนามบิน
“วันนี้ไม่ขอพูดในประเด็นการเมือง เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้พูดไปแล้ว เพราะเราได้ติดต่อกันตลอดเวลา ทั้งหมดจากการประชุมเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.จะต้องกลับมาพิจารณาในที่ประชุม คสช.อีกครั้ง ขอร้องว่าอย่าทำให้บ้านเมืองไม่สงบกันอีกเลย เพราะช่วงนี้กำลังเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง จึงขอให้นึกถึงคนที่เดือดร้อนกันบ้าง ถ้าเราไปเล่นการเมืองเพียงข้างเดียว เลือกตั้งไป ก็จะตามกันไปทั้งหมด อย่าลืมว่าการเมือง คือ การเมือง วันนี้เดินหน้ากันต่อไป ที่ผมกังวลวันนี้ ที่สุดเราจะได้รัฐบาลอะไรกลับมา ที่อ้างกันว่าจะเป็นรัฐบาลของประชาชน ทำเพื่อประชาชน ตามดู ผมก็ยังไม่เห็นมีใครพูด พูดกันแต่เพียงว่า จะแก้นั่นแก้นี่ ความไม่เป็นธรรมต่างๆ วันนี้แม้เราจะเป็นรัฐบาลแบบนี้แต่ทำไมไม่มองว่า จีดีพีสูงขึ้นเท่าไหร่ เพราะปีแรกก่อนจะเข้ามาโตแค่ 0.9% เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงวันนี้โตขึ้นร้อยละ 4 ไตรมาสแรกโตถึงร้อยละ 4.8 ไม่ใช่ว่าคนจนจะไม่ได้อะไรจากตรงนี้ เพราะทั้งหมดต่างได้ประโยชน์ การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ทำให้กับคนทุกระดับ ขอร้องอย่ากล่าวหาว่าเราทำงานเพื่อคนรวย เพราะถ้าทำอย่างนั้น คงไม่ต้องทำให้ยุ่งยากแบบนี้ คงไม่ต้องเอาโครงการไทยนิยมลงไป จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชนให้ช่วยกันทำความเข้าใจ นำเสนอเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือ เพราะตลอด 4 ปีที่ทำงานมา เราได้พยายามสร้างความเข้าใจ โครงการไทยนิยมไม่ได้ลงไปเพื่อหาคะแนนเสียง ยืนยันว่าผมยังไม่ได้อยู่กับใครสักคน หรืออยู่พรรคการเมืองใด ทุกอย่างเป็นการประเมินกันไปเอง วันหน้าเมื่อถึงเวลา แล้วอะไรเกิดขึ้นก็ค่อยๆ พูดกันตรงนั้นดีกว่า เพราะพูดตอนนี้ก็ดีแต่ทะเลาะกัน การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ไปด้วยศักดิ์ศรีของตัวเอง โดยเอาคนไทยและประเทศไทยไปด้วย เราไปเพื่อ ทำเพื่อประชาชนคนไทยทุกคน และขอร้องสื่อมวลชนให้ช่วยผมมากขึ้น แล้วทุกอย่างจะดีขึ้น บ้านเมืองจะสงบขึ้น ประเด็นความขัดแย้งจะลดลง เปิดโอกาสให้มีการพูดคุยกันมากขึ้น เพื่อหาทางออกร่วมกัน ไม่ใช่จะเชียร์กันไปมาคนละข้าง ความขัดแย้งก็จะเป็นอยู่แบบนี้ โดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้ การที่ทุกคนอยากปรองดอง จะต้องเริ่มจากจิตใจของทุกคน วันนี้ทุกคนต้องหาทางออกเพื่อพูดคุยกันให้ได้ ผมไปบังคับใครไม่ได้ จะเห็นว่าแค่ผมใช้อำนาจทางกฎหมายเพียงอย่างเดียว ก็มีความเดือดร้อนเกิดขึ้น เพราะมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย วันนี้เราต้องใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ยกเว้นกฎหมายสำหรับคนจน จนสุดท้ายกลับกลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ทำอะไร จึงขอถามสื่อตรงนี้ว่า เราจะอยู่กันแบบนี้หรือ ถ้าอยู่กันแบบนี้ การเลือกตั้งครั้งหน้าก็ไม่ต้องไปหวังอะไร เพราะทุกอย่างจะเป็นเหมือนเดิม โดยรัฐบาลจะอ้างว่าทำงานเพื่อประชาชน พอเกิดความรู้สึกว่าประชาชนไม่พอใจ ก็หยุดไม่ทำแล้ว ประเทศจะเปลี่ยนแปลงกันได้หรือไม่ วันนี้รัฐบาลได้ปฏิรูปประเทศ จึงขอร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย สนับสนุนรัฐบาล เพื่อให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สื่อมวลชนสามารถช่วยการทำงานของรัฐบาลได้มากที่สุด วันนี้อ่านข่าวจากสื่อ และโซเชียลมีเดียแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ เพราะทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นสองฝ่าย แม้จะเป็นธรรมดาของการนำเสนอข่าว แต่ขอร้องว่าอะไรที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือเรื่องที่ยังไม่มีข้อเท็จจริง ขอถามว่าสื่อมวลชนควรนำเสนอสิ่งที่คนพูดไม่น่าเชื่อถืออีกต่อไปหรือไม่ ไปให้เกียรติเขาทำไม นำเสนออีกทำไม เราควรให้เกียรติคนที่ทำงานให้ประเทศในตอนนี้ไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ให้เครดิตคนที่ทำผิด แล้วหนีไปอยู่ต่างประเทศ ผมไปสองประเทศมาในครั้งนี้ เขาก็มีคนให้เครดิตและสนับสนุนผม แต่คนที่ไม่ชอบผมก็มี ผมไม่ได้โกรธเขาเพราะผมเป็นคนไทย คนเหล่านั้นไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหนก็คือคนไทย ผมต้องรักเขา เพียงแต่วันนี้เขาไม่เข้าใจ วันข้างหน้าอาจจะเข้าใจก็ได้ หรือไม่เข้าใจก็แล้วแต่ แต่ผมทิ้งเขาไม่ได้ ขอร้องว่าอย่าไปให้เครดิตกับคนไม่สร้างสรรค์ โจมตีประเทศตัวเอง ไปอาศัยประเทศคนอื่นเขาอยู่ แล้วเกิดมาเป็นคนไทยทำไม ไปอยู่กันแบบคนชั้นสองขออาศัย ขออยู่อย่างนี้นะหรือ อย่าทำ เพราะไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ สิ่งที่ควรทำ คือ กลับมาสู่ครรลองของกฎหมาย ซึ่งเปิดโอกาสให้ต่อสู้ทางคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ถ้าคิดว่าตัวเองถูกขอให้กลับมา ที่พูดนี้หมายถึงทุกคน ไม่ได้หมายถึงใครคนใดคนหนึ่ง เพราะสิ่งที่ผมทำวันนี้นั้น ไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแม้แต่ซักนิดเดียว ผมไม่เคยได้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำในวันนี้เลย ประโยชน์จะตกกับคนข้างหลัง ผมและคณะรัฐมนตรีเหนื่อยกันทุกคน ไปต่างประเทศก็ไม่ได้ไปแบบสบายๆ จะต้องเตรียมข้อมูลและแสดงออกให้เห็นว่าเราคือมิตรประเทศ ไม่ใช่ให้เขามองเราเพียงว่า เป็นตัวแทนของประเทศที่มีความขัดแย้ง เขาก็ไม่อยากคุยด้วย วันนี้ทุกคนต้อนรับและให้เกียรติผมเป็นอย่างดี มีทั้งรถนำ รปภ.ทหารกองเกียรติยศ ได้รับการตอบรับอย่างดี ขอร้องอย่าเอาบ้านเราไปประจานให้คนต่างชาติเห็น มีคนบางประเภทที่ไม่ยอมเข้าใจอะไร แต่กลับออกมาประกาศว่ารักประเทศไทย รักประชาธิปไตย ซึ่งมันไม่ใช่ ทุกประเทศมีความเป็นมาคล้ายเรา ผมเข้ามาทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น แต่บางคนกลับทำให้ทุกอย่างวุ่นวายต่อไปอีก ขอถามอีกว่า เราจะอยู่กันอย่างไรต่อไป ในเมื่อไม่มีความสุข จึงขอให้ช่วยกันอีกครั้ง วันนี้ถือเป็นวันมงคล วันคล้ายวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช ผมจะเดินทางไปกราบขอพรให้กับคนไทย เพราะไม่อยากให้ปัญหาเก่าๆ เกิดขึ้นอีก ผมพยายามสร้างความเข้าใจให้มากขึ้น ขอร้องอย่าเอาการเมืองมาเป็นเรื่องเดียว เพราะประเทศอื่นใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำไม่ใช่การเมือง ไทยเรามีสภาเหมือนประเทศอื่นๆ ผมไม่สามารถสั่งการได้ ถ้าสั่งได้คงไม่เป็นเช่นนี้ ผมไม่สามารถสั่งการสภาหรือศาลได้ทั้งนั้น แม้จะมีอำนาจตามมาตรา 44 ก็ตาม แต่ก็ไม่ควรสั่ง ดังนั้น ใครก็ตามที่มีอำนาจเหมือนผมในวันนี้ ให้กลับไปคิดดูว่า หากมีอำนาจจริงๆ แล้วจะทำอะไร เพราะมีหลายคนต้องการให้ผมทำตามใจฝ่ายตัวเอง ซึ่งไม่สามารถทำได้”
matemnews.com
26 มิถุนายน 2561