เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.61 พ.ต.ท.วิสันต์ วัตรายุวงศ์ สารวัตรสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุว่ามีผู้ถูกข่มขืนที่บริเวณป่าริมทางก่อนถึงสวนอุตสาหกรรมอินทรา ม.9 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี
ที่เกิดเหตุพบ น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 22 ปี เป็นคน จ.เพชรบูรณ์ แต่ได้มาเช่าบ้านอยู่ที่ อ.ท่าโขลง จ.ลพบุรี และกำลังตั้งท้องอยู่ ยืนร้องไห้โดยมีเลือดไหลออกจากบริเวณหูด้านขวา ดวงตาช้ำแดงกล่ำลักษณะมีเลือดออกนัยน์ตา มีรอยช้ำบริเวณโหนกแก้ม สอบถามเบื้องต้น น.ส.พร (นามสมมติ) เล่าว่าตนมีอาชีพขายผลไม้โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดยจอดขายตามโรงงาน เนื่องจากตนท้องได้ 5 เดือน จะมีอาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ ในขณะที่ปวดปัสสาวะกะทันหัน ตนจึงรีบจอดรถเข้าไปปัสสาวะที่หลังพุ่มไม้ในป่าข้างทางก่อนถึงสวนอุตสาหกรรมรามอินทรา และก็โดนคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อเข้ามาเอามีดจ่อคอ บีบคอ และชกเข้ามาที่หน้าของตน 3 ครั้งและข่มขืน แต่เคยเห็นหน้าชายคนดังกล่าวขับรถยนต์กระบะสีดำ เข้า-ออก โรงงานโคโตบูกิ ซึ่งตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรมรามอินทราแห่งนี้อยู่เป็นประจำ โดยน่าจะเป็นพ่อค้าที่ขายของอยู่ภายในโรงงาน แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นว่า น.ส.พร (นามสมมติ) มีเลือดออกที่บริเวณหูและได้รับบาดเจ็บจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอินทร์บุรี หลังจากนั้นได้สอบถามชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้เห็นรถจักรยานยนต์พ่วงข้างที่ขายผลไม้ของ น.ส.พร (นามสมมติ) และรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด สีดำ ทะเบียน บต.1913 สิงห์บุรี จอดอยู่ข้างกันเป็นเวลานานอย่างผิดสังเกต จึงพากันมาดูสักพักได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย แล้วต่อมาก็มีผู้ชายเดินออกมาจากพุ่มไม้แล้วรีบขึ้นรถกระบะขับออกไปอย่างรวดเร็ว เมื่อพวกตนเดินไปดูหลังพุ่มไม้ก็พบ น.ส.พร (นามสมมติ) เสื้อผ้าหลุดลุ่ย มีเลือดไหลเปื้อนตัว นั่งร้องไห้ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายน่าจะเป็น นายปิยะ แสงทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ 7 ต.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โดยมีอาชีพขายอาหารให้กับพนักงานภายในโรงงานโคโตบูกิ ชุดสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จึงเดินทางไปที่โรงงานดังกล่าวพบ นายปิยะ อยู่ที่บริเวณร้านอาหารภายในโรงงาน จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.อินทร์บุรี จากการสอบสวน นายปิยะ ให้การรับสารภาพว่า ในเวลาดังกล่าวได้เดินเข้าไปปัสสาวะในป่าริมทางในที่เกิดเหตุได้มองเห็นผู้เสียหายกำลังถอดกางเกงนั่งลงเพื่อปัสสาวะ ทำให้ตนเกิดอารมณ์จึงได้ตรงเข้าไปหาผู้เสียหายเพื่อทำการข่มขืนและได้ใช้มีดปลายแหลมขู่ว่าอย่าร้อง เมื่อผู้เสียหายร้องตะโกนให้คนช่วย ตนจึงใช้หมัดขวาชกไปที่บริเวณกกหูและหน้าจำนวน 3 ครั้งและทำการข่มขืน ผู้เสียหายได้ร้องอ้อนวอนว่า พี่อย่าทำหนูเลย หนูท้อง ตนจึงหยุดและหยิบโทรศัพท์มือถือแกล้งถ่ายเพื่อขู่ผู้เสียหายไม่ให้ไปบอกใคร จากนั้นตนก็รีบใส่เสื้อผ้าเดินขึ้นรถกระบะที่ขับขี่มาเพื่อกลับบ้านเช่าที่ตลาดอินทร์บุรี ขณะที่ขับมาถึงบริเวณคันคลองมหาราช ตนได้ถอดเสื้อยืดสีขาวของตนที่เปื้อนเลือดของผู้เสียหายโยนออกนอกหน้าต่างรถลงน้ำในคันคลองมหาราช และได้กลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าขี่รถจักรยานยนต์ไปขายข้าวที่โรงงานต่อ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาที่ สภ.อินทร์บุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีในข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน โดยใช้กำลังประทุษร้ายต่อไป
โดยในช่วงหัวค่ำ ญาติๆ ของ น.ส.พร (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่โดน นายปิยะ ข่มขืนพากันมาที่ สภ.อินทร์บุรี กว่า 30 คน โดยแต่ละคนมีอาการโกรธแค้น โดยที่ นายปิยะ คนร้ายซึ่งทราบมาว่าเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำมาได้ไม่นานและก็ได้มาก่อเหตุ ทำร้ายและข่มขืนน้องสาวของตนอีก และบอกว่าเป็นคนที่โหดร้ายมากทำได้กระทั่งคนท้องใช้มีดจี้คอและบีบคออย่างแรง แถมขู่ว่าได้ถ่ายคลิปไว้ถ้าบอกใครจะฆ่าให้ตายอีก และในขณะที่น้องสาวกำลังชี้ตัว นายปิยะ ได้มีสายตาที่ข่มขู่อาฆาตน้องสาวตนตลอด นับว่าเป็นบุคคลที่อันตรายไม่ได้มีความสำนึกผิดแต่อย่างใดน่าจะได้รับโทษหนักๆ เป็นอย่างยิ่ง