เฟชบุ้ค Wassana Nanuam รายงาน
สัมมนา ถอดบทเรียน”ถ้ำหลวงฯ”
“ผบ.ทบ.”สั่ง รบพิเศษ จัดสัมมนา”ถอดบทเรียนถ้ำหลวง” ระดมความเห็นจากทุกหน่วยของ ทบ. และทุกภาคส่วน ราชการ เอกชน เพื่อ สร้าง องค์ความรู้ พร้อมพัฒนาทักษะกำลังพล เตรียมสร้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านรองรับเหตุการณ์วิกฤติ/24 ก.ค.นี้ ที่ลพบุรี หลังทบ.ส่งทหาร 1,323 นาย ร่วมช่วย”ทีมหมูป่าฯ”
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก ทบ. กล่าวว่า หลังจากที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมแรงร่วมใจในภารกิจช่วยเหลือ13 ชีวิตจากถ้ำหลวง จ.เชียงราย ซึ่งกองทัพบกได้เข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุนในภารกิจจนประสบผลสำเร็จนั้น
พลเอกเฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก สั่งการให้หน่วยงานของกองทัพบก ที่เข้าร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ได้สรุปข้อมูลการปฏิบัติงานในภาพรวม ทั้งด้านการใช้ยุทโธปกรณ์ การบริหารจัดการกำลังพล วิธีการค้นหากู้ภัย เพื่อใช้ประโยชน์เป็นฐานข้อมูล เป็นแนวทางและวิธีการในภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยในโอกาสต่อไป
รวมทั้งเป็นการยกระดับมาตรฐานการบรรเทาสาธารณภัย ของกองทัพบกให้เท่าทันต่อเหตุวิกฤตต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ พลเอกเฉลิมชัย ยังมีนโยบายให้หน่วยทหารเร่งพัฒนาทักษะกำลังพล ให้มีความสามารถในการปฏิบัติงานในภาวะเสี่ยงและยากลำบากยิ่งขึ้น
รวมทั้งการเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ในลักษณะเป็นผู้ชำนาญการพิเศษ เพื่อให้สามารถนำความเชี่ยวชาญดังกล่าวไปใช้ในการบรรเทาสาธารณภัยหรือเหตุการณ์วิกฤตในอนาคต เช่น การดำน้ำกู้ภัย การเข้าถึงพื้นที่เกิดเหตุด้วยวิธีเฉพาะ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการสานต่อและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการในภาวะวิกฤต ตามแนวนโยบายข้างต้น ผู้บัญชาการทหารบก มอบให้ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จัดสัมมนา
เชิงปฏิบัติการเรื่อง “ระบบการจัดการบริหารเหตุการณ์วิกฤต” ในวันที่ 24 กรกฎาคม2561 ที่ แหล่งสมาคมหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี
โดยเชิญผู้สัมมนาที่ได้ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหากู้ภัยที่ถ้ำหลวง จ.เชียงราย สำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ที่ 13(ทีมรังนกจากเกาะลิบง), ทีมสำรวจและขุดเจาะถ้ำ จาก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ /บริษัทChevron (Thailand)/ บริษัท Water Resource Engineering ,บริษัทจีโอเมคคานิคอล เซอร์วิสเซศ จก.,สมาคมกู้ภัยภูซางการกุศล จ.พะเยา (ฝ่ายสื่อสารภายในถ้ำ),จิตอาสาและอาสากู้ภัย(ฝ่ายลำเลียงสนับสนุนภายในถ้ำ), คณะที่ปรึกษาทางทหารสหรัฐประจำประเทศไทย,สถานทูสหรัฐ, ศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล, หน่วยงานภายในและกรมฝ่ายเสนาธิการของกองทัพบก เป็นต้น
โดยการสัมมนาประกอบด้วยการบรรยายและสาธิต “การจัดการบริหารเหตุการณ์วิกฤต” โดยผู้แทนศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายสากล, การบรรยายผลการปฏิบัติงานและบทเรียนที่ได้รับสู่การเตรียมความพร้อมในอนาคต
โดยหน่วยที่ร่วมภารกิจ รวมทั้งการจัดกลุ่มแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อต่างๆ เช่น “ประชารัฐร่วมใจ ค้นหา/กู้ภัยทีมหมูป่า” , “จัดการอย่างไรเมื่อต้องเอาชนะธรรมชาติและแข่งกับเวลา” และ “บทเรียน สู่องค์ความรู้ : Best Practice”
ทั้งนี้ กองทัพบกเชื่อว่าการสัมมนาดังกล่าวจะช่วยสานต่อความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพในการดูแลประชาชนในสถานการณ์วิกฤตต่อไป
ทั้งนี้ในเหตุการณ์ช่วยเหลือ13ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน กองทัพบกได้ส่งกำลังพล 1,323 นาย จาก กองทัพภาคที่3 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ, ศูนย์การบินทหารบก, มณฑลทหารบกที่ 37, กองพลทหารราบที่4, กองพลทหารราบที่7 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์, กองกำลังนเรศวร, กองกำลังผาเมือง และกรมแพทย์ทหารบก ภายใต้การอำนวยการจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก
พร้อมยุทโธปกรณ์และเครื่องมือบรรเทาสาธารณภัย อาทิ เอลิคอปเตอร์ แบบ MI17, เฮลิคอปเตอร์ เบลล์ 212 ,เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอว์ค , รถครัวสนาม และโรงพยาบาลสนามเคลื่อนที่ เข้าร่วมปฏิบัติการในระหว่าง23 มิถุนายน – 10กรกฎาคม 2561
matemnews.com
21 กรกฎาคม 2561