Home ข่าวทั่วไปรอบวัน พลเอกประยุทธ์ไม่ให้สื่อใช้คำว่า “ฟุ้งกะปัด”

พลเอกประยุทธ์ไม่ให้สื่อใช้คำว่า “ฟุ้งกะปัด”

503
0
SHARE

 

 

อังคาร 14 ส.ค.2561 ก่อนการประชุมครม. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล มีหลาย Event จัดให้ พล.อ.ประยุทธ์ แวะชมเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์งาน

 

1.นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ พล.อ.สุรเชษฐ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ นำคณะเข้าพบ เพื่อนำเสนอโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร หรือ คูปองครู เพื่อใช้พัฒนาการเรียนการสอน โดย สพฐ.สนับสนุนงบประมาณให้กับครูทุกคนไม่เกิน 10,000บาท/คน/ปีงบประมาณ ในรูปแบบของช้อปปิ้ง (shopping) ความรู้ และเบิกตามใช้จ่ายจริง

 

ระหว่างเดินชมพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ปัญหาของเราอยากให้โรงเรียนปรับการเรียนการสอนใหม่ให้ครูและนักเรียนไปด้วยกัน แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน ครูก็ต้องเรียนรู้เหมือนกัน เพราะถ้าสอนในห้องอย่างเดียวจะได้เฉพาะในตำรา  เมื่อมีการเรียนแล้วก็ต้องมีการประเมิน เหล่านี้คือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรามีการอบรมและปฏิรูป ไม่ใช่อบรมแค่ส่วนกลางเท่านั้น สามารถเลือกช่องทางได้ และจะได้มีการประเมินผลงานจากในโรงเรียน ได้บุคคลากรที่มากขึ้น แต่งบประมาณน้อยลงไปได้ถึง 7,000 ล้านบาท นี่คือการปฏิรูปการศึกษา แล้วอย่าบอกการศึกษาไม่ได้ทำอะไร มันไม่ง่าย ต้องแก้ทั้งระบบ เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยถูกต้อง ได้ใช้เวลา 3-4 ปีที่ผ่านมาจนวันนี้สามารถทำได้ เพราะโครงสร้างมันใหญ่ ฝากสื่อด้วยแล้วกัน

 

2.พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน นำคณะเข้าพบนายกฯ เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมโครงการเพิ่มศักยภาพผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ “เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้และความมั่นคงในชีวิต” โดยผู้เข้ารับการฝึกสามารถดูตำแหน่งงานที่ตลาดมีความต้องการและขาดแคลนได้ที่  ตู้งาน หรือตู้จ็อบบ็อก

 

พล.อ.ประยุทธ์ เดินชมงานและกล่าวไปด้วยว่า  ถือเป็นการบูรณาการเพื่อให้เข้าถึงข้อมูล วิธี ขั้นตอน รวมถึงข้อมูลการสมัครงาน การฝึกอาชีพให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีช่องทางในการสร้างศักยภาพ สร้างรายได้ คนที่ผ่านการฝึกจะมีใบรับรอง เพื่อยืนยันความสามารถไปใช้ในการประกอบอาชีพได้ นี่คือการปฏิรูประบบแรงงาน

 

พล.อ.ประยุทธ์  ได้ร่วมกิจกรรมฝึกอาชีพเป็นช่างตัดผม  ทำการตัดผมให้อาสาสมัครเป็นหุ่น  ตัดไปพูดไปว่า

 

“ตัดผมประจำอยู่แล้วสมัยที่เป็นทหาร”

 

คลิกชมรูปตัดผม

https://goo.gl/Sc6W3R

 

 

3.นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม นำคณะเข้าพบ เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดงานนิทรรศการ“ปฏิบัติการถ้ำหลวง: วาระแห่งโลก”   มีรายการจัดแสดงข้อมูลและภาพเหตุการณ์การช่วยชีวิตเด็กและผู้ช่วยโค้ช ทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี ทั้ง 13 คน ที่ติดอยู่ ณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมนำอุปกรณ์การช่วยชีวิตมาจัดแสดง อาทิ พาวเวอร์เจล หน้ากากอ๊อกซิเจน เปลสนาม และได้อธิบายถึงวิธีการใช้ รวมถึงนำอนุสาวรีย์จำลองจ่าแซมมาจัดแสด ง  พร้อมนำหนังสือประมวลภาพเหตุการณ์ ปฏิบัติการถ้ำหลวง:บันทึกวาระแห่งโลก  จัดพิมพ์ทั้งหมด  10,000 เล่ม มาแจกจ่ายด้วย

 

โอกาสนี้ พล.อ.ประยุทธ์  พูดถึงการถ่ายทำทำหนังหมูป่าว่า ใครจะสมัครเข้ามาก็ยื่นมา ไม่ว่าจะคนไทยหรือต่างประเทศ แต่ต้องให้เขาเขียนพล็อตเรื่องมาให้ดู  เพราะในพล็อตเรื่องจะเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจทำทีโออาร์  สำหรับตนมีอยู่ในความคิดแล้วว่า   จะทำหนังอย่างไร อยากให้โอกาสกับผู้สร้างในประเทศไทยก่อน โดยเนื้อหาต้องสอดแทรกสาระความรู้เข้าไปด้วย และต้องมีรูปแบบ ทั้งทำเป็นหนังและสารคดี ให้เน้นความสวยงามและธรรมชาติของประเทศไทย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองไทย และต้องคำนึงถึงเรื่องเวลาที่เหมาะสม

 

  1. พล.อ.ประยุทธ์แวะ ที่ห้องรับรองรอง 1 คณะอาจารย์ และผู้ฝึกสอนนำทีมฟุตบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย รออยู่ เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯเนื่องในโอกาสสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนโลกรายการ Norway Cup 2018 ได้เป็นผลสำเร็จ

 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวชื่นชมทีม ว่า กรุงเทพคริสเตียน นอกจากวิชาการดีแล้วกีฬายังเด่นด้วย ขอให้คงความสามารถตรงนี้ไว้ที่สำคัญขอให้ช่วยสอนในเรื่องทักษะในการใช้ชีวิตจริง ขอให้สอนมากกว่าเรื่องของวิชาการ และขอให้เยาวชนทุกคนอย่าเกเร อย่าได้เที่ยวไปพ่นข้อความหรือคำพูดต่างๆบริเวณสะพาน และขอร้องว่าอย่าไปตีกับคนอื่น ศักดิ์ศรีของโรงเรียนก็ขอให้อยู่ที่โรงเรียนและให้เก็บความภาคภูมิใจไว้ และอย่าคิดว่าตนเองเก่งกว่าคนอื่น ทะเลาะกับเขาแล้วจะชนะเลิศมันไม่ใช่ ขอให้คงสโลแกนของโรงเรียนที่ว่า ฝีเท้าต้องดี จิตใจต้องงดงาม และต้องเรียนได้ เพราะในอนาคตทุกคนต้องประกอบอาชีพ เพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศ และการเรียนไม่ใช่เน้นวิชาการเพียงอย่างเดียว สามารถที่จะแยกไปเรียนวิชาชีพได้  ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องการตกงาน อย่ามัวแต่ไปบ่นกันว่าไม่มีงานทำ รายได้น้อย เราต้องสอนให้ทุกคนเรียนรู้และเตรียมความพร้อมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆว่าจะเรียนอะไรและจะประกอบอาชีพอะไร ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาทั้งหมดก็ได้ คนที่จะมีอาชีพได้แน่ๆก็คือพวกที่เรียนสายอาชีวะ การเป็นนักกีฬาของโรงเรียนควรจะต้องยึดหลัก เรียนเด่น เล่นดี มีคุณธรรม ขอให้เป็นคนดีเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง อย่าเป็นคนเด่นเพียงหน่วยงานเดียว  ก็จะเกิดการทะเลาะเบาะแว้งและขัดแย้งกันไปหมด ใครพูดอะไรก็เชื่อ แต่พอนายกฯพูดกลับไม่เชื่อ ยืนยันว่าสิ่งที่นายกฯพูด ไม่ได้พูดเพื่อตัวเอง แต่พูดเพื่ออนาคตวันข้างหน้า ทั้งครู นักเรียน การศึกษา จะต้องมีการปฏิรูป และขอให้ทุกคนเก็บความดีงามและชัยชนะครั้งนี้ไว้ อย่าลืมว่าการเป็นแชมป์นั้นยาก แต่การรักษาแชมป์และการรักษาความดีนั้นยากกว่า  จึงขอให้ทุกคนตั้งใจเรียนหนังสือ เชื่อมั่นในตัวครู และตั้งใจฝึกซ้อม และอย่าลืมว่าคนที่จะดีใจและเสียใจที่สุดคือ พ่อแม่และครอบครัว”

 

มาถึงตอนนี้พล.อ.ประยุทธ์  ได้ถามเด็กๆว่า โตขึ้นมีใครอยากเป็นนายกฯบ้าง   ปรากฏว่าไม่มีเยาวชนคนไหนยกมือเลย พล.อ.ประยุทธ์ จึงพูดต่อว่า

 

ถ้าอยากเป็นนายกฯต้องเรียนหนังสือให้เก่งและทำให้ดีกว่านายกฯประยุทธ์ วันข้างหน้าจะได้แก้ปัญหาในทุกเรื่อง และหากใครอยากติดทีมชาติก็ต้องมีความพยายาม เพื่อที่จะไปทดแทนทีมชาติชุดปัจจุบัน

 

คลิกชมรูปทีมฟุตบอล

https://goo.gl/6xwYwm

 

แล้ว พล.อ.ประยุทธ์  ก็หันมาพูดกับคณะนักข่าวว่า

 

“ให้เขียนข่าวให้ดี อย่าไปเขียนว่า นายกฯฟุ้ง นายกฯปัด ไปเขียนพวกนี้มันไม่ได้เรื่อง ไม่เกิดประโยชน์ และขอฝากสื่ออีกเรื่องว่า ในการหาความรู้อะไรไม่ใช่เปิดแต่กูเกิ้ล เพราะแม้จะมีคำอธิบายแต่ก็เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่ก็มีบางครั้งที่มีการอธิบายเนื้อหาข้อมูลยาวก็ขอฝากสื่อ ถ้าอยากรู้เรื่องการกระจายอำนาจก็ไปเปิดในกูเกิ้ลบ้าง ว่าการกระจายอำนาจมันคืออะไร และปัจจุบันเรามีหรือยัง ไม่ใช่มาเขียนทุกวันว่าเราต้องกระจายอำนาจ เรื่องนี้เราทำกันอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นต้นมา แต่ถ้าดูแล้วมันไม่ดีไม่สอดคล้องตรงไหนก็ไปแก้ไขกันมา”

 

 

matemnews.com

14 สิงหาคม 2561