Home ข่าวทั่วไปรอบวัน เนติวิทย์ บอกว่า “ป่าเถื่อน”

เนติวิทย์ บอกว่า “ป่าเถื่อน”

700
0
SHARE

 

“นายศุภลักษณ์ บำรุงกิจ” หรือ เสก รองประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คนที่ 1 นิสิตปี 4 คณะเศรษฐศาสตร์  จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ไปที่ สน.ปทุมวัน เทมื่อเวลา 19.15 น. วันที่ 3 ส.ค.2560  แจ้งความขอให้ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ตัวเองโดนอาจารย์ผู้ล็อคคอทำอะไรบ้าง ระหว่างลากตัวออกไปจากลานพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนิสิตปี 1 ณ สนามหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า หรือลานพระบรมรูป 2 รัชกาล เมื่อตอนบ่ายขณะฝนตกหนัก  โดยมี  นายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล  ประธานสภานิสิตจุฬาฯ และคณะกรรมการบริหารสภานิสิตคนอื่นๆร่วมไปเป็นเพื่อนด้วย  พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น ผกก.สน.ปทุมวัน บอกแก่ผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้แจ้งว่ามีความประสงค์มาลงบันทึกประจำวันว่าเกิดเหตุอะไร โดยยังไม่ได้ขอให้มีการดำเนินคดีกับใคร ดังนั้น ทางตำรวจจึงลงบันทึกประจำวันไว้ตามความประสงค์ของผู้แจ้ง

 

ผู้สื่อข่าวของ voice tv ติดตามทำข่าวขณะนิสิตจุฬาฯเข้าแจ้งความ  และรายงานในเว็บไซต์ สัมภาษณ์ นายศุภลักษณ์  หลังลงบันทึกประจำวันแล้ว  กล่าวว่า

 

“มาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ยังไม่ได้จะเอาผิดใคร  แต่มาลงไว้ก่อนว่าเราโดนอะไร เพราะไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีอะไรตามมาบ้าง   สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดมาก่อน  รู้สึกเสียใจที่ทำไมอาจารย์จุฬาฯ ทำแบบนี้ ใช้อำนาจ ใช้กำลังแบบนี้ คือเขาไม่ได้มองว่านิสิตเป็นมนุษย์เหมือนกับเขาเลย  เขาถึงใช้กำลังและด่าทอด้วยคำไม่สุภาพ ตอนนี้ทางจุฬาฯ ก็ยังไม่ได้ติดต่อมาเลย หลายชั่วโมงไม่มีใครติดต่อมาทั้งๆ ที่ผมเป็นผู้เสียหาย   อยากให้มหาวิทยาลัยเปิดกว้างกว่านี้ อยากให้ผู้ใหญ่รับฟังเด็ก พูดคุยกันด้วยเหตุผลที่เป็นเหตุผลจริงๆ ไม่ใช่เอะอะก็อ้างความสุภาพ อ้างกาละเทศะ แล้วมาตรฐานคืออะไร เราควรจะดูประวัติศาสตร์ด้วย เช่น ชุดนิสิตเกิดขึ้นมายังไง พิธีนี้เกิดขึ้นมาจากไหน”

 

Voice tv สัมภาษณ์ นายเนติวิทย์ ที่โรงพัก  กล่าวว่า

“มาสถานีตำรวจเป็นเพื่อนนายศุภลักษณ์  มาลงบันทึกประจำวันไว้ว่าวันนี้เขาโดนอะไรบ้าง รู้สึกสลดใจที่รองประธานสภานิสิต ถูกเข้าไปล็อคตัว  และถูกต่อว่าด้วยคำหยาบคา  ยโดยบุคลากรท่านหนึ่งของจุฬาฯ   รู้สึกว่านี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่ต้องการความเจริญงอกงาม เป็นมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ทำให้คนพัฒนาตัวเองให้เป็นคนมีเหตุมีผลมากขึ้นเลย กลับกลายเป็นเชื่อตามขนบประเพณีเดิมๆ พอเห็นคนอื่นทำแตกต่างก็จะไปกระทำต่อร่างกายเขา ผมว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ควรเป็น สิ่งที่ควรเป็นตอนนี้คือการพูดคุย  การทำแบบนี้เป็นอะไรที่ป่าเถื่อน เป็นอะไรที่ทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง ผมจะไม่ทำแน่ๆ ยิ่งคุณเป็นครูบาอาจารย์ คุณต้องไม่ทำแบบนี้   ถ้าครูคนไหนเดินไปใช้ความรุนแรงกับนักเรียนแล้วก็บอกว่าตัวเองรักนักเรียน ผมไม่เชื่อ เพราะทำแบบนั้นไม่ถูกต้อง กรณีนี้ก็เช่นกัน เข้าไปล็อคคอคนอื่นเขา เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ผิดมารยาท ผิดจริยธรรม เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ”

 

ส่วนกรณีที่มีสตรีท่านหนึ่งพยายามจะแย่งกล้องจากสื่อมวลชน นายเนติวิทย์ กล่าวว่า

“ผมก็รู้สึกเสียใจนะ มหาวิทยาลัยทำไมจะต้องกลัวอะไรด้วย ถ้าเราคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นดี เราไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรเลย แล้วไปแย่งกล้องสื่อมวลชน ผมว่าไม่ใช่มารยาทที่ดี  ถ้าจะมีความเห็นต่อการนำเสนอ อย่างไรเราก็ต้องพูดด้วยเหตุด้วยผล คุยกันดีๆ ผมว่านี่เป็นมารยาทพื้นฐานที่มนุษย์พึงมีให้กัน ดังนั้น ที่ไปแย่ง ไปคว้ากล้องเนี่ย ผิดเลย ผิดอย่างมหันต์มาก  ผมไม่เคยเห็นกรณีแบบนี้เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เพราะคนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่ใช้อารมณ์เป็นตัวตั้งมาก และไม่ได้ดูถึงความเหมาะสม ควรจะคุยก่อน นี่คือสิ่งที่เขาทำกันทั้งโลก ไม่ใช่ไปคว้าไปแย่ง นั่นมันสำหรับเด็ก”

 

 

 

คลิกอ่านข่าวของ voice tv

http://news.voicetv.co.th/thailand/512695.html

 

 

 

Matemmews.com  4 สิงหาคม 2560