พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวแก่สื่อมวลชนที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อบ่ายวันที่ 28 ส.ค.2561 ว่า
ครม.มีมติเห็นชอบกรณีการเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แก่ผู้มีสิทธิ์ตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตามมติ ครม.ระยะที่ 1 เมื่อวันที่ 29 ส.ค.60 และระยะที่ 2 วันที่ 9 ม.ค.61 กรณีการให้เงินช่วยผู้ถือบัตรดังกล่าว โดยระยะที่ 1 จะได้จำนวนเงินเพิ่ม 200 – 300 บาทต่อ และระยะที่ 2 เพิ่มอีก 100 – 200 บาท สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่แสดงความประสงค์จะพัฒนาตนเองในแบบประเมินและเมนูการพัฒนารายบุคคล โดยขึ้นอยู่กับรายได้ขั้นต่ำ เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกและกำลังซื้อแก่ผู้ถือบัตรให้สามารถนำเงินไปใช้จ่ายได้ตามต้องการ สำหรับช่วยบรรเทาปัญหาค่าครองชีพ และส่งเสริมให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ จึงได้มีการเสนอให้ปรับเปลี่ยนแนวทางจากการเพิ่มวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภค – บริโภคที่จำเป็น รายเดือน ตามมาตรการเดิมของมติ ครม.เป็นการเติมเงินเข้าสู่กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรดังกล่าวของผู้มีสิทธิ์แทน โดยมีระยะเวลาตั้งแต่เดือน ก.ย. – ธ.ค.61 จากเดิมที่เมื่อได้รับเงินแล้วต้องใช้จ่ายในร้านธงฟ้าเท่านั้น เปลี่ยนเป็นผู้ถือบัตรสามารถถอนเงินที่เติมเข้า เป็นเงินสดผ่านผ่านตู้เอทีเอ็มและสาขาของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้เลย และหากแต่ละเดือนมียอดเงินคงเหลือ สามารถสะสมไว้ใช้สำหรับเดือนต่อไปได้ ซึ่งครอบคลุมเฉพาะเงิน 100 – 200 บาท ในระยะที่ 2 เท่านั้น
งบประมาณตั้งแต่การเริ่มดำเนินโครงการตั้งแต่เดือน มี.ค. – ส.ค.ที่ผ่านมา ในระยะที่ 2 สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี จำนวน 4,868.85 ล้านบาท และผู้มีรายได้มากกว่า 30,000 บาท/ปี แต่ไม่เกิน 100,000 บาท จำนวนเงิน 826.98 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวได้รับงบประมาณในการดำเนินมาตรการ วงเงินรวม 35,679.09 ล้านบาท
matemnews.com
28 สิงหาคม 2561