องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) จัดงานแถลงข่าวผลงาน ที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อตอนเช้าวันที่ 29 ส.ค.2561 หัวข้อ
“7 ปี องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)”
นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) (ACT) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการแถลงผลงาน ว่า
ในช่วง 7 ปีที่ทำงานมา แบ่งได้เป็น 2 ช่วง คือก่อนที่จะมีรัฐบาลชุดนี้เข้ามา ยอมรับว่าการขับเคลื่อนเรื่องการต่อต้านคอรัปชั่นทำได้น้อยมาก เพราะได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลน้อย จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่จำเป็นได้ แต่เมื่อมาในรัฐบาลชุดปัจจุบัน ได้รับความร่วมมือ เนื่องจากภาครัฐเห็นความสำคัญขององค์กร ที่จะช่วยขับเคลื่อนการต่อต้านการทุจริต โดยเราพยายามวางตัวเป็นกลาง จะเห็นว่าขณะนี้กระบวนการที่ทำมาสามารถทำให้การทุจริตคอร์รัปชันลดลงในระดับหนึ่ง หากเปรียบเทียบกับเมื่อหลายปีที่ผ่านมาจากผลการสำรวจ ยืนยันว่าการทุจริตคอร์รัปชั่นลดลง แต่ก็ยังไม่พอเพียง สำหรับสถานการณ์การเรียกรับเงินใต้โต๊ะจากอดีตที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มลดลงมาก
นักข่าวถามว่า องค์กรให้คะแนนความจริงใจของรัฐบาลนี้ในการร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันเมื่อเทียบกับรัฐบาลที่ผ่านมากี่คะแนน นายประมนต์ตอบว่า
“ผมให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ยอมรับว่ายังมีบุคคลใกล้ตัวหลายคนที่ถูกสังคมตั้งข้อสงสัย เป็นปัญหาส่วนหนึ่ง และปัญหาอีกส่วนคือระบบราชการ ที่เมื่อมีและนโยบายอย่างหนึ่งอย่างใดออกมาแล้วการขับเคลื่อนยังไม่ราบรื่น เพราะระบบราชการไทยมีข้อจำกัดและเงื่อนไขพอสมควร หากถามว่านายกรัฐมนตรีควรจะดำเนินการอย่างไรกับคนใกล้ตัวที่สังคมตั้งข้อสงสัยนั้น ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้ นายกรัฐมนตรีคงทราบดีไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวอะไร”
นักข่าวถามต่อไป ประเด็นความคืบหน้าการตรวจสอบนาฬิกาหรูของพลอ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีความล่าช้า รวมถึง การยืมเงิน 300 ล้านบาท พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. นายประมนต์ ตอบว่า
“เรา ได้พยายามเร่งรัดและหาทางดำเนินการกับ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้โดยตรง จึงขอสื่อมวลชนช่วยติดตามเรื่องกับทาง ป.ป.ช. ว่าเหตุใดจึงมีความล่าช้า โดยทางองค์กรได้ส่งหนังสือทวงถามไปแล้วหนึ่งครั้งและระหว่างนี้อยู่ในขั้นตอนของการติดตามผล ทั้งนี้สิ่งใดที่ทำแล้วมีความรู้สึกว่าเป็นการกระทำ 2 มาตรฐาน สังคมเองก็ต้องการคำอธิบาย และความล่าช้าที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ทุกคนผิดหวัง แต่ผมก็ยังรอว่า ทางปปช.จะชี้แจงกรณีดังกล่าวอย่างไร จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ สังคมได้สะท้อนความคิดเห็นแล้ว ขณะนี้ทำได้เพียงรอผลอย่างเป็นทางการจากป.ป.ช.โดยยังไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด”
matemnews.com
29 สิงหาคม 2561