น.ส.ปณิดา ยศปัญญา หรือ น้องแบม อดีตนักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผู้ทำความดีให้ประเทศไทย ด้วยการ เปิดโปงขบวนการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่งและผู้มีรายได้น้อย ของศูนย์จังหวัดขอนแก่น จนเกิดการสอบสวนและลงโทษข้าราชการหลายคน ออกมาให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2561 ขณะพาแม่ไปรับรางวัลแม่ดีเด่นปี 2561 จากผู้ว่าฯขอนแก่นว่า จนวันนี้ก็ยังไม่ได้เข้ารับราชการ ที่ศูนย์เกิดเหตุตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับปากว่าจะดูแลให้ ขณะรับโล่เชิดชูที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อ 17 เม.ย.2561 ซึ่งเป็นข่าวดังตลอดวันพฤหัสบดี ต่อมาในตอนบ่าย นางสุภัชชา สุทธิพล ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะโฆษกกระทรวง พม. แถลงแก่ผู้สื่อข่าวว่า
ตนไม่แน่ใจว่าผู้ใหญ่คนไหนของกระทรวง พม.ที่ไปรับปาก และได้พูดกับน้องแบมไปว่าอย่างไร แต่ตามหลักการหากอยากเป็นข้าราชการสังกัดกระทรวง พม. ต้องสอบบรรจุตามระเบียบ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ซึ่งเริ่มแรกจะต้องสอบภาค ก.ให้ผ่าน จากนั้นจะต้องสอบภาค ข.ที่กระทรวงหรือกรมเปิดสอบให้ผ่าน ก่อนสอบสัมภาษณ์ซึ่งที่ผ่านมา กระทรวง พม.ใช้ระบบนี้มาตลอดในการรับข้าราชการพลเรือน การสอบก.พ.ถือเป็นการสอบที่ต้องใช้ความสามารถของตนเอง คำสัญญาว่าจะรับน้องเข้าทำงานก็ไม่สามารถล่วงล้ำได้ เว้นแต่ในส่วนการสอบภาค ข.และสอบสัมภาษณ์ ที่อาจทำให้น้องอาจมีภาษีดีกว่าผู้สอบคนอื่นๆ เพราะเคยฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจึงมีประสบการณ์มากกว่า และตอบคำถามได้ได้ แต่คงไม่ใช่การไปลัดขั้นตอน เพราะอาจทำให้เกิดข้อครหาจากผู้ที่ขึ้นบัญชีรอเรียกบรรจุได้ ตามหลักการสอบบรรจุข้าราชการ ก็จะต้องเข้าไปทดแทนในตำแหน่งว่างของหน่วยงาน อย่างน้องแบมที่บอกว่าอยากเข้าไปทำงานที่ศุนย์ฯขอนแก่น ก็ต้องไปดูว่ามีตำแหน่งว่างไหมในศูนย์นั้น จากการสอบถาม นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่เป็นต้นสังกัดทุกศูนย์ พบว่าเพิ่งเปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการไป และเริ่มทยอยเรียกเข้าบรรจุแล้ว ฉะนั้นคงต้องรอให้ตำแหน่งว่างก่อน คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพัก.
คลิกอ่านข่าวพลเอกประยุทธ์สัญญา
matemnews.com
30 สิงหาคม 2561