Home ข่าวทั่วไปรอบวัน คณะเยาวชนของ “โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 6” เข้าเยี่ยมคาระวะ พลเอก ประยุทธ์

คณะเยาวชนของ “โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 6” เข้าเยี่ยมคาระวะ พลเอก ประยุทธ์

795
0
SHARE

 

 

คณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมนำคณะเยาวชนของ “โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 6” เข้าเยี่ยมคาระวะนายกรัฐมนตรี

นรม. ได้ย้ำให้โอวาทโดยให้เยาวชนทุกคนตระหนักในเรื่องการเรียนรู้เพื่อสามารถนำมาต่อยอดในการพัฒนาคุณภาพชีวิตตนเองและครอบครัว ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาชาติบ้านเมืองให้มีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป

 

วันนี้ (6 กันยายน 2561) เวลา 09.00 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล นาย สไลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรมได้นำคณะเยาวชนของ “โครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน รุ่นที่ 6” จำนวนประมาณ 200 คน เข้าเยี่ยมคาระวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

 

โอกาสนี้ นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวรายงานว่า สำนักงานศาลยุติธรรมตระหนักถึงความสำคัญของเยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ที่อาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ จำเป็นต้องสร้างจิตสำนึกให้แก่เยาวชน ให้มีคุณธรรม จริยธรรมและส่งเสริมให้ได้รับความรู้ความเข้าใจ ด้านกฎหมาย สิทธิและหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน รวมถึงกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสันติสุข สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปขยายผลสร้างเครือข่ายในท้องถิ่นของตนเอง อันจะเป็นประโยชน์และนำความสงบสุขสู่ชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน ดังนั้น จึงจัดทำโครงการเยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน (Belia Thai Sejiwa Sehati) รุ่นที่ 6 ให้แก่เยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีอายุระหว่าง 15 ถึง 18 ปี ซึ่งกำลังศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่าในสถาบันการศึกษาปอเนาะ หรือ โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม หรือโรงเรียนในระดับมัธยมศึกษาของรัฐ ซึ่งมีภูมิลำเนาหรือสถาบันการศึกษาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ อำเภอเทพา อำเภอนาทวี และอำเภอสะบ้าย้อย เข้าร่วมโครงการ

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาทความตอนหนึ่งว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้มีความมั่นคง โดยที่ผ่านมาได้มีการลงพื้นที่ไปตรวจราชการ และพบปะกับพี่น้องประชาชน ได้รับทราบปัญหาและความต้องการของประชาชน จนนำไปสู่แนวทางการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ผ่านโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” เพื่อต้องการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมให้มีการลงทุนจากภาคเอกชนที่จะสามารถสร้างงานและสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ตลอดจนการมุ่งแก้ไขปัญหาร่วมกันด้วยสันติวิธีภายใต้ยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ส่งเสริมความรู้แก่นแท้ของหลักการ และน้อมนำกระแสพระราชดำรัส ในสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้านจิตสาธารณะหรือจิตอาสาช่วยเหลือสังคมไปประพฤติปฏิบัติอย่างจริงจังและกว้างขวางในทุกภาคส่วน สร้างกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อชี้ให้เห็นถึงความจริงใจของรัฐบาลในการมุ่งมั่นพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีความเจริญก้าวหน้า ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

นายกรัฐมนตรีให้โอวาทเพิ่มเติมว่า เยาวชนเป็นอนาคตของชาติแต่ความจริงแล้วเยาวชนไม่เพียงเป็นและมีส่วนสำคัญอย่างมากในการช่วยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาของสังคมด้วย การมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ที่จะช่วยนำพาในการพัฒนาประเทศชาติอีกทางหนึ่ง แต่การที่เยาวชนจะเติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพนั้น ความรู้ทางด้านวิชาการเพียงอย่างเดียวคงไม่เพียงพอต้องได้รับการบ่มเพาะทางด้านคุณธรรม จริยธรรม และนำหลักธรรมคำสอนทางศาสนามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต รวมทั้งต้องได้รับการเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดี เพื่อให้มีมุมมองชีวิตที่กว้างขึ้น มีความรอบรู้ และก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ดังนั้นการอบรมของสำนักงานศาลยุติธรรมในโครงการนี้ นอกจากจะส่งเสริมทางด้านความรู้ ด้านคุณธรรม และเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตที่ดีแล้ว เยาวชนทุกคนยังมีโอกาสได้เรียนรู้ถึงหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่ฝ่ายตุลาการใช้ในการพิจารณาตัดสินคดี เพื่ออำนวยความเป็นธรรมให้ทุกคนทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันด้วยความสงบเรียบร้อย และก่อให้เกิดสันติสุขขึ้นในสังคมได้อย่างแท้จริง

 

………………………………………………………..

กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก

เว็บไซต์รัฐบาลไทย  รายงาน

 

 

 

 

matemnews.com 

6 กันยายน 2561