ศาลอาญา ถถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ออกนั่งบัลลังค์ ห้องพิจารณาคดี 906 เมื่อตอนเช้าวันที่ 12 ก.ย.2561 อ่านคำพิพากษาคดีฉ้อโกงประชาชน หมายเลขดำอ .2176/60 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 เป็นโจทก์ฟ้อง
บริษัท เวลท์เอเวอร์ จำกัด โดย น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” อายุ 31 ปี กรรมการบริษัทฯ
นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ อายุ 56 ปี มารดาซินแสโชกุน
นายก้องศรัณย์ แสงประภา อายุ 23 ปี ลูกพี่ลูกน้อง
น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ อายุ 36 ปี หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน
นางประนอม พลานุสนธิ์ อายุ 41 ปี เลขานุการส่วนตัวของซินแสโชกุน
นางณิชมน แสงประภา อายุ 65 ปี ป้าของซินแสโชกุน และเป็นมารดาของนายก้องศรัณย์,
นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ อายุ 36 ปี ผู้ดูแลการเงิน
น.ส.สุดารัตน์ อเนกนวล อายุ 26ปี
นายโกวิท ช่วยสัตว์ อายุ 31 ปี
เป็นจำเลยที่ 1-10 ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341, 343 พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 3, 4, 12 และพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2534 และ พ.ศ.2545 นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ด้วยข้อความเป็นเท็จ ฯและข้อหาอื่นฯ พร้อมทั้งขอชดใช้เงินให้กับผู้เสียหายจำรนวน 871 คน พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี
พฤติการณ์แห่งความผิด เมื่อระหว่างวันที่ 25 ม.ค. – 11 เม.ย. 2560 ซินแสโชกุน จำเลยที่ 2 – 10 กับพวกร่วมกันหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนโดยใช้เฟซบุ๊ก “WEALTH EVER FOR LIFE ” และไลน์กลุ่ม ประกาศเชิญชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนกับพวกจำเลย เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เสริมอาหารบำรุงสมอง MASTERMIND ของบริษัท ALLYSIAN โดยจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนทำให้ร่ำรวยขึ้น พร้อมกับการจัดโปรแกรมประชุมสัมมนาท่องเที่ยวให้สมาชิก เดินทางไปเมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ระหว่าง 10 -15 เม.ย . 2560 และ 11- 16 เม.ย. 2560 โดยเครื่องบิน AIR BUS A330-300 ขนาด 377 ที่นั่ง ของสายการบินคาร์เธ่ แปซิฟิก จำนวน 6 ลำ และประเทศอื่น ๆ จนมีประชาชน 871 รายหลงเชื่อสมัครเข้าเป็นสมาชิกร่วมลงทุนทำธุรกิจกับ บริษัทจำเลยที่ 1 กับพวก จนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ระหว่างวันที่ 1 มี.ค.- 10 เม.ย. 2560 ซินแสโชกุล จำเลยที่ 2 ยังได้ ลักลอบนำผลิตภัณฑ์อาหารเสริม MASTERMIND ชนิดแค็บซูล และอาหารเสริม SMART KIDS เข้ามาในราชอาณาจักรหลายครั้งหลายหน รวมมูลค่าสินค้าและอากรแสตมป์กว่า 945,131 บาท
ขอให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ 2550 ,พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ,พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า พยานหลักฐานโจทก์ มั่นคงน่าเชื่อถือ ขณะที่ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษาจำคุก น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือ ซินแสโชกุน จำเลยที่ 2
น.ส.ทัศย์ดาว สมัครกสิกรรณ์ หญิงคนสนิทของซินแสโชกุน จำเลยที่ 5
นางพารินธรญ์ หงส์หิรัญ ดัคกอร์ จำเลยที่ 8
ในความผิดฐานร่วมกันกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน 871 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 4,355 ปี
ตามกฎหมาย ให้จำคุกจำเลยไว้สูงสุดได้ไม่เกิน 20 ปี คงจำคุกจำเลยทั้งสามไว้คนละ 20 ปี
ส่วนบริษัท เวลท์เอเวอร์ จำเลยที่ 1 ให้ปรับ กระทงละ 5 แสนบาท จำนวน 871 กระทง รวมปรับ 435,500,000 บาท
ให้จำเลยที่ 2,5 และ8 ร่วมกันคืนเงินแก่ผู้เสียหาย 871 ราย รวมเป็นเงิน 51 ล้านบาทเศษ
นางมณฑญาณ์ นิรันดร หรือ จันทร์ฉาย นาคฤทธิ์ มารดาซินแสโชกุน และจำเลยอื่น ๆให้ยกฟ้อง
ระหว่างฟังอ่านคำพิพากษา จำเลยทึกคนสีหน้าเรียบเฉย มีเพียง นางพารินธรญ์ จำเลยที่ 8 คนเดียวที่ร้องไห้
Matemnews.com
12 กันยายน 2561