ตอนบ่ายวันที่ 3 ต.ค.2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางไปที่ชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ “ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม” ร่วมกับชาวลำพูน และพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ ประชาชน ที่มาต้อนรับกว่า 1,500 คน โดยได้ปราศรัยแก่ชาวบ้านว่า
“มาทำบุญวันนี้รู้สึกตื้นตัน วันนี้รู้สึกมีความสุขตั้งแต่เช้ารู้สึกหัวใจเต้นช้าลง ไม่ตื่นเต้นเหมือนอยู่กรุงเทพฯที่มีเรื่องให้แก้ทั้งวันทั้งคืน มานี่ทุกคนมีความสุขเห็นรอยยิ้ม อาหารอร่อยเป็นความสุขธรรมชาติ ถือว่าเยี่ยมเยือน ไม่ใช่เจ้าใหญ่นายโตที่ไหน และวันนี้มารับฟังปัญหาต่างๆ ผมไม่ได้เอาเงินลงมาแจก แต่มารับฟังประชาชน ขอชาวลำพูนอย่าไปชอบคนพูดปากหวาน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้จริง เราอย่าเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยความรุนแรง ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ถ้าใช้กำลังทะเลาะกันไปมา วันหน้าก็ใช้กำลังกันต่อ เมื่ออีกฝ่ายแข็งแรงเท่ากันหรือมากกว่าก็กลับมาสู้กันใหม่ มันไม่ได้ ทุกประเทศในโลกเลิกหมดแล้ว หลายปัญหาแก้ในรัฐบาลนี้ บางอย่างแก้ได้บางอย่างแก้ไม่ได้ แต่เราพยายามแก้ทุกอย่าง อย่าให้ใครมาบิดเบือนเรื่องต่างๆ เดี๋ยวเรื่องเหล่านี้จะมาอีกเยอะพอเปิดเวทีคอยดู ประวัติอะไรต่างๆ ของผมจะต้องมีมาอีกเยอะ ท้องถิ่นคอยดูนะ เรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะ อย่าให้ใครมาบิดเบือน เราบริหารอย่างเหมาะสม เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้ ใช่หรือไม่ นายกเทศมนตรี , อบจ. , อบต.คอยดูเถอะเดี๋ยวมาอีก พอเริ่มเปิดเวที ประวัติที่ไม่เคยมีก็จะมี ชีวประวัติผมก็จะมายาวมากกว่าปกติ ผมเกิดมาผมรู้ประวัติผมมีแค่ไหน แต่มันชอบเติมให้ผม มีสองอย่างคือ เติมกับลด ต้องแก้ปัญหากระเทียม หอมแดง ลักลอบเข้าประเทศ ต้องกวาดล้างให้หมด โดยสั่งการให้แม่ทัพภาค 3 ดำเนินการเข้มงวด รวมไปถึงยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายอื่นด้วย หากทำไม่ได้ก็มีโทษ เพราะลักษณะการบริหารของผมเป็นแบบให้คุณและให้โทษ ส่วนการท่องเที่ยวของไทย ที่มีกรณีตบตีนักท่องเที่ยว ต้องไล่ออกให้หมด เป็นเจ้าหน้าที่ต้องอดทนกว่าคนธรรมดา และให้เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้ให้บริการ ยึดหลักที่ว่าผู้ใช้บริการเป็นเจ้านายเสมอ คำว่า ประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับการเมือง เป็นชื่อนโยบายรัฐบาล แต่ใครจะเอาไปใช้ก็เรื่องของเขา เพราะเป็นเรื่องที่รัฐอำนวยความสะดวก โดยความหมายของคำนี้ คือ ความร่วมมือกันทุกภาคส่วน มีรัฐเป็นของประชาชน และอำนวยความสะดวกให้ประชาชน การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ไม่มีรัฐบาลไหนทำได้แต่รัฐบาลนี้ทำ โดยมีการแก้ไขกฎหมาย ไม่ได้เพื่อการเมือง เราต้องไม่ทำลายตัวเองด้วยความเชื่อที่ผิดอย่าทำร้ายตัวเอง และต้องไม่ทุจริตบาทเดียวก็ไม่ได้ ไม่มีผลประโยชน์ และไม่ใช่อ้างแต่สิทธิตามรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหลักการประเทศ หลักการประชาชนทั่วประเทศ ต้องดูกฎหมายประกอบที่ตอบทุกมาตรารัฐธรรมนูญ ไม่ใช่รัฐธรรมนูญบอกมีสิทธิมีเสียงอะไรก็ได้ ไม่อย่างนั้นก็ตีกันทั้งเมือง ห้ามชุมนุมแล้วเป็นอย่างไรไปไหนไม่ได้ ที่ผ่านมาตีกันทั้งเมือง ต่อไปอย่าให้เกิดขึ้นอีก สัญญาได้ไหม วันนี้หลายคนคงถามว่านายกฯ จะให้อะไร จะให้เท่าที่ให้ ทุกอย่างจะดีขึ้นตามเวลา ระยะ 3 ปีที่ผ่านมาก็ทำมาเยอะ และหลังจากปีนี้ประเทศไทยจะดีขึ้น จากที่หลายอย่างที่ผ่านมาหลายรัฐบาลแก้ไม่ได้เพราะกลัวเสียคะแนน ถ้าเราไม่แก้ตรงนี้ก็จะพันไปเรื่อยๆ ซื้อเวลาไปเรื่อย โดนฟ้องทุกอัน โยนมาถึงรัฐบาลนี้ และผมไม่โยนไปรัฐบาลข้างหน้า”
matemnews.com
3 ตุลาคม 2561