“ตามรอยศาสตร์พระราชา เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” สานต่อปณิธาน เพื่อชีวิตพอเพียงเลี้ยงชุมชนอย่างยั่งยืน
นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงงานหนักในการสร้าง “ประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” อย่างมากมายมหาศาล เพื่อให้สมกับการเป็น “พ่อของแผ่นดิน” และไม่มีการทรงงานใดตลอดระยะเวลาการครองราชย์ ๗๐ ปี ที่พระองค์ไม่ทรงทำเพื่อมหาชนชาวไทย
มหาชนชาวไทยเปรียบเสมือนดวงใจของพ่อ ดังนั้นความสุข และความเป็นอยู่ของราษฎรจึงถือเป็นสิ่งสำคัญ อันเห็นได้จากแนวพระราชดำริที่มี “คน” เป็นศูนย์กลางทรงในการแก้ไขปัญหา และจากพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙ ว่า
“ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและ ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพ อันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์ หรือได้ประโยชน์ ไม่คุ้มค่า หากแต่ การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลัก วิชา เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงได้ร่วมกับ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) สร้างโครงการ “ตามรอยศาสตร์พระราชาเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน” โดยน้อมนำปรัชญาและหลักคิดของการทรงงานมาใช้ในการบริหารจัดการพื้นที่ท่องเที่ยว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวชุมชน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในการน้อมนำหลัก เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวของไทย โดยเฉพาะการท่องเที่ยวชุมชน ในประสบการณ์ Local Experience
นางสาวนาเดีย ราชีต (Ms. Nadia Rasheed) ผู้แทนผู้บริหารโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก กล่าวว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมมือกับ ททท. โดยหัวใจหลักคือพัฒนาให้ชุมชนสามารถสร้างรายได้ได้ด้วยตนเองและมีชีวิตที่ยั่งยืน” ในขณะที่ คุณพัณณิน กิติพราภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสยามนิรมิต จำกัด กล่าวว่า “ด้วยความที่ชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วจึงรู้สึกยินดีที่ทางททท.เปิดกว้างด้านการท่องเที่ยว สนับสนุนการท่องเที่ยวชุมชน นอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่สถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ อีกด้วย”