พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 ณ ห้องประชุม อาคารยูโรปา กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยี่ยม เมื่อตนเช้าวันที่ 18 ต.ค.2018 ตามเวลาท้องถิ่น ตรงเวลาไทย 19 ต.ค.2561 ก่อนพิธีเปิดการประชุม พลเอกประยุทธ์ได้พบปะหารือทวิภาคีกับ ผู้นำเนเธอร์แลนด์ และนอร์เวย์ ตามลำดับ ผลหารือสรุปดังนี้
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจงกับผู้นำทั้งสองถึงพัฒนาการทางของไทยว่า ช่วง 4 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่า การเมืองไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับ และเป็นไปตามโรดแมป โดยเฉพาะความสงบสุขในประเทศ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากสถิติตัวชี้วัดด้านต่างๆ ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้าน รัฐบาลไทยมีความมุ่งมั่นตั้งใจจริงที่จะปฏิรูปประเทศให้มีเสถียรภาพทางการเมือง มีระบอบประชาธิปไตย ที่เข้มแข็ง และมีเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะนี้รัฐบาลกาลังดาเนินการในระยะสุดท้ายของโรดแมป ที่ประกาศไว้ คาดว่าจะสามารถจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.พ.62 หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน พ.ค.62
จึงถึงเวลาแล้วจะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์แบบมองไปข้างหน้า เพื่อมุ่งส่งเสริมความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนระหว่างกัน ทั้งในระดับทวิภาคี ในกรอบอนุภูมิภาค กรอบภูมิภาค และกรอบพหุภาคี ในปีหน้า ประเทศไทยจะเป็นประธานอาเซียนโดยจะให้ความสําคัญกับการส่งเสริมความเป็น แกนกลางของอาเซียน การสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความเชื่อมโยง และการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และจะส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ ในยุโรปให้มีบทบาทที่สร้างสรรค์ในภูมิภาคมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมนี้ นายกฯ ได้เชิญชวนให้ทั้ง 2 ประเทศ พิจารณาเข้ามาเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาและส่งเสริมความเชื่อมโยงภายใต้นโยบาย Thailand +1 และ ACMECS โดยสามารถเข้าร่วมทั้งในรูปแบบของการสนับสนุนกองทุน หรือในรูปแบบของ การจัดทําโครงการในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจุบันแผนนี้มีหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิก และยุโรป อาทิ สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส ได้แสดงความสนใจจะเข้าร่วมแล้ว
การหารือกับ นายมาร์ค รึตเตอ (Mark Rutte) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ไทยชื่นชมความเชี่ยวชาญด้านการชลประทานและการบริหารจัดการน้ำระดับโลกของเนเธอร์แลนด์ โดยมีวิศวกรรมบริหารจัดการน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยไทยและเนเธอร์แลนด์ต่างเผชิญปัญหาความท้าทายที่ใกล้เคียงกัน จากการเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำไทยจึงสนใจเรียนรู้ จากเนเธอร์แลนด์ ในด้านการวางแผนระยะยาวในการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการและเป็นระบบ รวมถึง การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม ขอเชิญชวนให้เนเธอร์แลนด์ศึกษาถึงศักยภาพและโอกาสการลงทุนในประเทศไทยที่เปิดกว้างภายใต้แผน ปฏิรูปทางเศรษฐกิจครั้งประวัติศาสตร์ของไทย ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 โครงการพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานขนาดใหญ่ และโครงการ EEC นอกจากนี้ ไทยและเนเธอร์แลนด์จะขยายความร่วมมือในด้านโลจิสติกส์และการพัฒนาท่าเรือ ซึ่งเนเธอร์แลนด์มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะในเขต EEC
การหารือทวิภาคีกับ นางเออร์นํา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรนอร์เวย์ ไทยและนอร์เวย์จะร่วมมือกันในด้านพลังงานสะอาด การกำจัดขยะในทะเล และไทยเชิญชวนลงทุนในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor – EEC) ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 ในสาขาที่นอร์เวย์สนใจ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า และการวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับพลังงานสะอาด พลังงานทางเลือก โทรคมนาคม ยาและเวชกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ เทคโนโลยีการกำจัดขยะ หรือเปลี่ยนขยะเป็นพลังงาน และการขนส่งทางทะเล
matemnews.com
19 ตุลาคม 2561