Home ข่าวทั่วไปรอบวัน ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ  

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ  

411
0
SHARE

 

มีการประชุม 5 ผบ.เหล่าทัพกับตำรวจ ที่ บก.กองทัพไทย เมื่อตอนเช้าวันที่ 19 ต.ค.2561  หลังประชุมแล้วทุกผบ.มายืนร่วมกันแถลงข่าวแก่สื่อมวลชน  โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวนำในการแถลงถึง จุดยืนการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าว่า

 

“ภารกิจการเตรียมการเลือกตั้ง สิ่งที่เราจะสามารถทำได้คือ การให้ความรู้ความเข้าใจในกฎกติกาของการเลือกตั้ง งานที่เราทำผิดชอบ คือ การทำให้บรรยากาศในทุกพื้นที่อยู่ในความสงบ  คือ งานสำคัญของพวกเราทุกคน ส่วนการเน้นย้ำกำลังพลนั้น เพื่อเป็นแนวปฏิบัติต้องยึดมั่นในกรอบหน้าที่ของทหาร และตำรวจ  คือ  การทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความสงบ ให้ความรู้ความเข้าใจจะต้องมีจุดสมดุล เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆก็ตามที่นำไปสู่ความเข้าใจคลาดเคลื่อน  สถานการณ์ในปีหน้า หากย้อนไปเมื่อช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่าใน 4 ปีนี้เป็น 4 ปีที่มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วง จนทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐเกิดปัญหา  คนไทยก็อยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี  กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล”

 

มาถึงช่วงนี้นักข่าวถามแทรกขึ้นว่า  จุดยืนของทหารยังอยู่เคียงข้างประชาชนใช่หรือไม่  พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ตอบว่า

 

“จุดยืนของทหารตำรวจ คือจุดใดก็ได้ที่ประเทศชาติมีความสงบ”

 

นักข่าวถาม หากในอนาคตเกิดวิกฤตการเมืองอีกครั้ง บทบาทของทหารจะเป็นอย่างไร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงจากอำนาจ พล.อ.พรพิพัฒน์ ตอบ

 

“หากเราไม่ไปพยากรณ์ว่า จะเกิดการจลาจล ขณะนี้การเดินทางของประเทศไทย 4 ปีที่ผ่านมา ถือว่า มีพัฒนาการดี ก้าวหน้าและมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอด  แทนที่เราจะคิดว่าจะเกิดการจลาจล  แต่ถ้าหากเราร่วมมือการตัดสินใจให้ถูกต้อง  ทุกคนมีจุดยืนที่เหมาะสมร่วมกัน เราก็คงไม่ต้องไปคิดว่าจะเกิดการจลาจลหรือไม่ในอนาคต  และไม่ต้องไปคิดว่าทหารจะต้องมาทำอะไรหรือไม่ในวันนั้น  สิ่งที่ พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ.พูดนั้น ท่านพูดด้วยประสบการณ์   นั่นคือแผนเผชิญเหตุสุดท้าย  แต่ในขณะที่กลไกกฎระเบียบของบ้านเมืองยังใช้บังคับได้   และผู้คนเคารพกฎหมาย  ความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งก็ยังไม่เห็นปรากฏว่ามีนัยยะสำคัญ  จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวล  การที่เราไปพูดถึงเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น และไม่มีทีท่าว่าจะเกิดจะทำให้สังคมเกิดความกังวลได้  ผมคิดว่า เราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่กับการรับข้อมูลและการตัดสินใจจากข้อมูลนั้นให้เกิดความสงบ  อย่าไปตื่นตามประเด็นที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเล็กๆน้อยๆ และคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น จุดยืนของกองทัพ และ สตช.คือจุดที่ประชาชนมีความสุขและประเทศชาติมีความสงบ”

 

นักข่าวถามย้ำ ถ้ามีการรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่หรือไม่  พล.อ.พรพิพัฒน์ตอบ

 

“ผมยังไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดความไม่สงบ   และยังไม่เห็นว่าจะต้องไปแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยวิธีใด ในเมื่อกฎหมายยังบังคับได้ปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น  ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร”

 

หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.อ.อภิรัตช์ คงสมพงษ์   เดินไปจับมือกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์  ดิษยะศริน ผบ.ทอ.  แล้วพล.อ.อภิรัชต์ เดินไปไปไหว้ป้ายชื่อของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.)  ที่ติดอยู่บนป้ายรายชื่อนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ผู้เป็นบิดา

 

ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น  เมื่อ พล.อ.อภิรัชต์ มาถึงอาคาร บก.กองทัพไทย ได้เดินเข้าไปดูรูป “บิ๊กจ๊อด”ภายในห้องรับรองนเรศวรอีกด้วย

 

นักข่าวได้สัมภาษณ์ พล.อ.อภิรัชต์  ถามถึงกระแสโจมตีจากฝ่ายการเมือง หลังแถลงข่าวการรัฐประหารจะไม่เกิด  ถ้าฝ่ายการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจลว่า

 

“เป็นเรื่องธรรมดา”

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายเอกชัย หงส์กังวาล จะไปแจ้งความตำรวจให้ดำเนินคดี พลงอ.อภิรัชต์ในข้อหากบฏ  ได้คำตอบ “ก็ว่าไป”

 

หลังการแถลงข่าวแล้ว พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารเที่ยง โดยได้มอบเค้ก ให้กับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 59 ในวันที่ 19 ต.ค.2561 พอดี

 

 

เฟชบุ้ค วาสนา นาน่วม

https://goo.gl/oSvUNE

 

matemnews.com 

19 ตุลาคม 2561